"เอกนิติ" เตรียมนำคณะบีโอไอ เยือนญี่ปุ่น 27–29 พ.ย. นี้ จัดงานสัมมนาใหญ่ "Thailand-Japan Investment Forum" เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่น พร้อมหารือแผนขยายการลงทุนในไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า วันที่ 27-29 พ.ย.นี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะนำคณะบีโอไอเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเดินทางโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุนกับประเทศผู้ลงทุนรายใหญ่เป็นประเทศแรกหลังเข้ารับตำแหน่งของนายเอกนิติ โดยบีโอไอร่วมกับธนาคาร SMBC และพันธมิตรภาคธุรกิจญี่ปุ่นจัดสัมมนาใหญ่ “Thailand-Japan Investment Forum 2025” ณ Tokyo Kaikan กรุงโตเกียว เพื่อนำเสนอทิศทางนโยบายของรัฐบาลและมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงโอกาสการลงทุนในสาขาต่าง ๆ และปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย โดยขณะนี้มีนักลงทุนและผู้บริหารบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นลงทะเบียนเข้าร่วมงาน 400 ราย

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

...


“ในงานสัมมนา นายเอกนิติ จะนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ในขณะที่บีโอไอ จะชี้ให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงสิทธิประโยชน์และมาตรการสนับสนุนจากบีโอไอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนญี่ปุ่น และนายเอกนิติจะพบกับรมว.เศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เพื่อหารือความร่วมมือด้านการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ และการพัฒนาพลังงานใหม่ รวมถึงแนวทางสร้างความร่วมมือเพื่อรักษาฐานการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยให้มั่นคง”

ขณะเดียวกัน การโรดโชว์ครั้งนี้ จะมีการจัดประชุมร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น 6 ราย ซึ่งมีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ มาสด้า มิตซูบิชิ และนิสสัน เพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น พร้อมทั้งนำเสนอมาตรการสนับสนุนล่าสุดจากรัฐบาลและบีโอไอ เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่องในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ (xEV) อย่างครบวงจร นอกจากนี้ จะพบหารือกับธนาคารรายใหญ่ของญี่ปุ่น และบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของโลก เพื่อเชิญชวนให้มาขยายการลงทุนในประเทศไทย

“ญี่ปุ่นถือเป็นพันธมิตรสำคัญและมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมายาวนาน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรม และเป็นประเทศที่มีเงินลงทุนสะสมมากที่สุดในประเทศไทย การจัดโรดโชว์ครั้งนี้ จะสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนนักลงทุนญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มที่มีฐานอยู่ในไทยแล้วและกลุ่มที่กำลังตัดสินใจโยกย้ายฐานการผลิต”

อีกทั้งจะยกระดับความร่วมมือในการต่อยอดอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นเป็นผู้นำในปัจจุบัน ไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ พลังงานใหม่ รวมถึงการดึงการลงทุนจากกลุ่ม เอสเอ็มอี และ สตาร์ทอัพ ของญี่ปุ่น ซึ่งมีศักยภาพที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศ

“5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2563 – 2568 ญี่ปุ่นได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 1,493 โครงการ มูลค่า 420,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี ยานยนต์และชิ้นส่วน โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 35,469 ล้านบาท เพิ่มเป็น 73,754 ล้านบาท”

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม