โดนัลด์ ทรัมป์ คุยกับ สี จิ้นผิง ทางโทรศัพท์ โดยหารือกันหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องยูเครนและไต้หวัน ซึ่งฝ่ายจีนย้ำว่า ไต้หวันควรกลับคืนสู่จีน

ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 24 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นฝ่ายโทร ก่อนที่ในเวลาต่อมา นายทรัมป์จะโพสต์ข้อความเปิดเผยข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับการคุยครั้งนี้

“ผมเพิ่งมีการคุยโทรศัพท์ที่ดีมากกับประธานาธิบดีสี (จิ้นผิง) ของจีน เราหารือกันในหลายประเด็นรวมถึง เรื่องยูเครน/รัสเซีย, เฟนทานิล, ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ เราได้มีการทำข้อตกลงที่ดีและสำคัญมากสำหรับเกษตรกรผู้ยิ่งใหญ่ของเรา และมันจะดีขึ้นอีก” ข้อความของนายทรัมป์ระบุ

“ความสัมพันธ์ของเรากับจีนนั้นเข้มแข็งอย่างยิ่ง การโทรศัพท์ครั้งนี้เป็นการติดตามผลจากการประชุมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของเราที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ตั้งแต่นั้นมาก็มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญจากทั้งสองฝ่ายในการทำให้ข้อตกลงของเราเป็นปัจจุบันและถูกต้อง”

“ตอนนี้เราสามารถตั้งเป้าไปที่ภาพรวมใหญ่ได้ เพื่อจุดประสงค์นั้น ประธานาธิบดีสีได้เชิญผมไปเยือนกรุงปักกิ่งในเดือนเมษายน ซึ่งผมได้ตอบรับ และผมได้เชิญเขามาเป็นแขกของผมสำหรับการเยือนอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี เราตกลงกันว่าการที่เราสื่อสารกันบ่อยครั้งเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผมตั้งตาคอยที่จะทำเช่นนั้น”

ด้านสำนักข่าว ซินหัว ของจีน รายงานว่า ระหว่างการพูดคุย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้แจ้งต่อประธานาธิบดีทรัมป์ว่า “การกลับคืนสู่จีนของไต้หวัน เป็นส่วนสำคัญของระเบียบโลกหลังสงคราม”

“จีนและสหรัฐฯ เคยต่อสู้เคียงข้างกันเพื่อต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์และลัทธิแสนยานุภาพนิยม และในตอนนี้ก็ควรทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องผลลัพธ์ของสงครามโลกครั้งที่สอง” นายสีกล่าว ตามรายงานของ ซินหัว

...

ทั้งนี้ จีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตนเอง และไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อเข้าควบคุมไต้หวัน แม้ว่ารัฐบาลไต้หวันจะปฏิเสธการกล่าวอ้างของจีนและระบุว่า มีเพียงประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินอนาคตของตนเองได้

ตอนนี้จีนกำลังเผชิญกับวิกฤตทางการทูตกับญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี หลังจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ กล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า หากจีนโจมตีไต้หวันจนทำให้การดำรงอยู่ของญี่ปุ่นถูกคุกคาม ญี่ปุ่นก็อาจตอบสนองด้วยกำลังทหาร

นายสีกับนายทรัมป์พบกันที่เกาหลีใต้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม หลังจากความตึงเครียดทางการค้าดำเนินมานานหลายเดือนซึ่งเกิดจากนโยบายภาษีของทรัมป์ หลังจากนั้น จีนก็กลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ และระงับมาตรการขยายขอบเขตการจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายาก ขณะที่สหรัฐฯ ได้ลดภาษีสินค้าจากจีนลง 10%

ผู้นำจีนบอกกับผู้นำสหรัฐฯ ในการสนทนาครั้งล่าสุดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ มีเสถียรภาพและดีขึ้นนับตั้งแต่การประชุมที่เกาหลีใต้ “ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าความร่วมมือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ในขณะที่การเผชิญหน้าจะทำลายทั้งสองฝ่าย” พร้อมกระตุ้นให้ทั้งสองประเทศรักษาแรงผลักดันเชิงบวกและขยายความร่วมมือระหว่างกัน

ผู้นำทั้งสองยังได้หารือเกี่ยวกับสงครามในยูเครน โดยนายสียืนยันอีกครั้งว่าจีนสนับสนุนทุกความพยายามที่นำไปสู่สันติภาพ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดช่องว่างความแตกต่างของกันและกัน


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : reuters