หลานสาววัย 35 ปีของ จอห์น เอฟ. เคนเนดี อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และหมอบอกว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึง 1 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า น.ส.ทาเทียนา ชลอสเบิร์ก หลานสาวของ จอห์น เอฟ. เคนเนดี อดีตประธานาธิบดีคนดังของสหรัฐฯ เปิดเผยผ่านบทความเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 พ.ย. 2568) ว่า เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และแพทย์แจ้งว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งปี
ในบทความที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของนิตยสาร The New Yorker ชลอสเบิร์กในวัย 35 ปี ระบุว่า เธอได้รับการวินิจฉัยเมื่อปีที่แล้วว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันไมอีลอยด์ (AML) ที่มีการกลายพันธุ์หายากที่เรียกว่า Inversion 3 ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมหายากที่พบในผู้ป่วย AML ไม่ถึง 2%
แพทย์ค้นพบมะเร็งไม่นานหลังจากที่ชลอสเบิร์กให้กำเนิดลูกสาวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567
“ฉันไม่เชื่อ ... ไม่สามารถเชื่อได้ว่า พวกเขากำลังพูดถึงฉันอยู่” ชลอสเบิร์กเขียน “เมื่อวานฉันยังว่ายน้ำในสระได้เป็นไมล์อยู่เลย ทั้งที่ท้อง 9 เดือน ฉันไม่ได้ป่วย ฉันไม่ได้รู้สึกป่วย ที่จริงฉันเป็นหนึ่งในคนที่สุขภาพดีที่สุดที่ฉันรู้จัก”
ในบทความดังกล่าว ชลอสเบิร์กได้เปิดเผยขั้นตอนการรักษาที่ยากลำบาก รวมถึง การทำคีโมบำบัดหลายรอบ, ปลูกถ่ายไขกระดูก 2 ครั้ง และการเข้าร่วมในการทดลองทางคลินิก 2 ครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังได้รับการวินิจฉัยว่า ติดเชื้อไวรัส Epstein-Barr ชนิดหนึ่งในเดือนกันยายน ซึ่งมันทำลายไตของเธอ และทำให้เธอต้องหัดเดินอีกครั้ง
“ระหว่างการทดลองทางคลินิกล่าสุด แพทย์ของฉันบอกว่า เขาสามารถทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ได้อีกหนึ่งปี บางทีนะ” ชลอสเบิร์กระบุ
...
ทั้งนี้ ชลอสเบิร์ก ซึ่งเป็นนักข่าวด้านสิ่งแวดล้อม เป็นบุตรสาวคนที่ 2 ของ แคโรไลน์ เคนเนดี อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และ เอ็ดวิน ชลอสเบิร์ก นักออกแบบ เธอมีสามีชื่อ จอร์จ โมแรน ซึ่งทั้งคู่มีลูกชายวัย 3 ขวบและลูกสาววัย 1 ขวบ
ชลอสเบิร์กระบุว่า โรส พี่สาวของเธอซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ กับ แจ็ก น้องชายของเธอซึ่งเพิ่งประกาศลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาคองเกรสเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ช่วยเหลือเธอในการเลี้ยงดูลูกๆ และ “กุมมือฉันอย่างไม่หวั่นไหวในขณะที่ฉันทรมาน พยายามไม่แสดงความเจ็บปวดและความเศร้าของพวกเขา เพื่อปกป้องฉันจากสิ่งนั้น”
ชลอสเบิร์กบรรยายว่า เธอกำลังรับการรักษาในขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ได้รับการยืนยันตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหลังจากที่เขา “ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในฐานะผู้สมัครอิสระ แต่ส่วนใหญ่แล้วนี่เป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับฉันและครอบครัวสายตรงที่เหลือของฉัน”
เธอระบุอีกว่า แพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ “เออร์วิง” ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเป็นที่ที่เธอรับการรักษาอยู่ ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลทรัมป์ตัดเงินทุนของรัฐบาลกลางที่มอบให้แก่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียหรือไม่
“จู่ๆ ระบบประกันสุขภาพที่ฉันพึ่งพาอยู่ก็รู้สึกตึงเครียดและสั่นคลอน” ชลอสเบิร์กระบุ ก่อนที่ในเวลาต่อมา มหาวิทยาลัยได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลทรัมป์เพื่อกู้คืนเงินทุนดังกล่าว
ชลอสเบิร์กบอกอีกว่า เธอเสียใจที่เพิ่มโศกนาฏกรรมให้กับประวัติศาสตร์ของตระกูลของเธอ ตามหลังเหตุลอบสังหารนาย จอห์น เอฟ. เคนเนดีเมื่อปี 2507 และการลอบสังหาร โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี ซีเนียร์ ผู้เป็นอาของเธอเมื่อปี 2511
“ตลอดชีวิตของฉัน ฉันพยายามที่จะเป็นคนดี เป็นนักเรียนที่ดี เป็นน้องสาวที่ดี เป็นลูกสาวที่ดี และปกป้องแม่ของฉัน และไม่ทำให้เธอไม่สบายใจหรือโกรธเคืองเลย” ชลอสเบิร์กระบุ “ตอนนี้ฉันได้เพิ่มโศกนาฏกรรมครั้งใหม่ให้กับชีวิตของเธอ ให้กับชีวิตครอบครัวของเรา และไม่มีอะไรที่ฉันจะทำได้เพื่อหยุดยั้งมัน”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn