เด็กนักเรียนกว่า 300 คนที่ถูกกลุ่มมือปืนลักพาตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อน สามารถหนีรอดกลับมาได้แล้ว 50 คน ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบชะตากรรม

สมาคมคริสเตียนแห่งไนจีเรียออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย. 2568 ว่า เด็กนักเรียนอย่างน้อย 50 คน จากเด็กมากกว่า 300 คนที่ถูกกลุ่มมือปืนลักพาตัวไปจากโรงเรียนคาทอลิกแห่งหนึ่งในรัฐไนเจอร์เมื่อสัปดาห์ก่อน สามารถหลบหนีกลับมาได้สำเร็จ

เหตุลักพาตัวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (21 พ.ย.) โดยกลุ่มมือปืนบุกโจมตีโรงเรียนสหศึกษาเซนต์แมรีในรัฐไนเจอร์ โดยลักพาตัวเด็กอายุระหว่าง 8-18 ปี 303 คนและครู 12 คนไป ซึ่งนี่ถือเป็นการลักพาตัวหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในไนจีเรีย โดยจำนวนนักเรียนดังกล่าวคิดเป็นเกือบครึ่งของนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนเซนต์แมรี

“เราได้รับข่าวดี เนื่องจากนักเรียน 50 คนหนีออกมาได้และกลับไปรวมตัวกับผู้ปกครองแล้ว” สมาคมคริสเตียนแห่งไนจีเรียกล่าวในแถลงการณ์ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่า พวกเขาหลบหนีออกมาได้อย่างไร

ด้านรัฐบาลไนจีเรียยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจำนวนเด็กที่ถูกพาตัวไปจากโรงเรียน แต่ประธานาธิบดีโบลา ทินูบู ระบุผ่าน X ว่า “นักเรียนที่หายไป 51 คนจากโรงเรียนคาทอลิก... ได้รับการช่วยเหลือแล้ว”

นอกจากนั้น นายทินูบูยังระบุด้วยว่า “ด้วยความพยายามของกองกำลังความมั่นคงของเราตลอดหลายวันที่ผ่านมา ผู้แสวงบุญทั้ง 38 คนที่ถูกลักพาตัวในเมืองเอรูคู รัฐควารา ได้รับการช่วยเหลือแล้ว”

อนึ่ง เมื่อวันอังคาร (18 พ.ย.) โบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐควารา ถูกกลุ่มมือปืนบุกโจมตีระหว่างประกอบพิธีทางศาสนา มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และนักแสวงบุญถูกลักพาตัวไป 38 คน

ก่อนหน้านั้นในวันจันทร์ (17 พ.ย.) กลุ่มมือปืนบุกโรงเรียนมัธยมในรัฐเกบบี ซึ่งอยู่ใกล้กับรัฐไนเจอร์ และลักพาตัวเด็กผู้หญิงไป 25 ราย

...

ทั้งนี้ การลักพาตัวผู้คนไปเรียกค่าไถ่ ฝีมือของแก๊งอาชญากรรม ซึ่งเรียกกันในท้องถิ่นว่า “กลุ่มโจร” กลายเป็นปัญหาใหญ่ในหลายพื้นที่ของไนจีเรีย ซึ่งทางการออกกฎหมายห้ามการจ่ายค่าไถ่ เพื่อตัดแหล่งเงินทุนของแก๊งอาชญากร แต่ก็แทบไม่มีผลกระทบใด ๆ


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cna