คปภ.เร่งออกมาตรฐานกลาง ในการจ่ายเงินเคลมประกันให้กับประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า

นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทางพื้นที่ภาคใต้และสร้างความเสียหายให้กับทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจอย่างมหาศาล โดยขณะนี้ทาง คปภ.ได้มีข้อมูลการทำประกันภัยและประกันวินาศภัย ประเภทอุทกภัย ที่ประชาชนได้ทำไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งสามารถทำการเคลมและจ่ายเงินได้ทันทีหลังน้ำลดและมีการสำรวจความเสียหายแล้วเสร็จ ซึ่งล่าสุดวันนี้ได้มีการเรียกภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันภัยทั้งหมดเข้ามาหารือ ทั้งสมาคมประกันภัย และบริษัทรับทำประกันวินาศภัยต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจและกำหนดหลักเกณฑ์กลางในการเคลมประกันให้กับประชาชน เพื่อให้ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด

โดยการจ่ายเงินเคลมประกันภัยจากน้ำท่วม จะแบ่งเป็นหลายส่วน

...

ส่วนแรก คือ บ้านเรือนของประชาชนที่ทำประกันวินาศภัยเอาไว้ ซึ่งครอบคลุมไปถึงภัยจากอุทกภัย หรือ น้ำท่วม ซึ่งสามารถจ่ายเงินเคลมประกันภัยได้ทันทีหลังสำรวจความเสียหายเสร็จ เนื่องจากมีหลักเกณฑ์เดิมอยู่แล้ว

ส่วนที่ 2 คือ สถานประกอบการภาคเอกชน ที่ต้องหยุดกิจการไปจากสถานการณ์น้ำท่วม ก็สามารถจ่ายเงินเคลมประกันให้ได้ทันที ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ตามหลักเกณฑ์ที่ได้ทำกรมธรรม์เอาไว้

ส่วนที่ 3 คือ กลุ่มรถยนต์สันดาป หรือ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป ที่เสียหายจากการถูกน้ำท่วม ซึ่งจะแบ่งจ่ายเป็น 5 ระดับตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกับตัวรถ ตั้งแต่ถูกน้ำท่วมระดับพื้นรถยนต์ ไปถึงถูกน้ำท่วมทั้งคัน ซึ่งส่วนนี้ก็สามารถจ่ายเงินเคลมประกันได้เลย เพราะมีหลักเกณฑ์เดิมที่กำหนดเอาไว้แล้ว

นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.
นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.

นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.
นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการด้านกำกับธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.

และส่วนที่ 4 คือ รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV ในส่วนนี้เป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่ได้มีการกำหนดมาตรฐานกลางเอาไว้ ซึ่งที่ผ่านมาประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าจะครอบคลุมความเสียหายจากแบตเตอรี่เป็นหลัก เนื่องจากเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และแพงที่สุด แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงต้องทำการกำหนดเป็นมาตรฐานกลางให้บริษัทประกันภัยแต่ละบริษัทนำไปใช้เพื่อจ่ายชดเชยให้กับผู้ทำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง เช่น ขับรถไปแล้วเจอน้ำท่วมระหว่างทางจนได้รับความเสียหาย หรือ จอดไว้แล้วถูกน้ำท่วมทั้งคันจนได้รับความเสียหาย รวมถึง ระยะเวลาจำนวนมากที่รถและแบตเตอรี่แช่น้ำอยู่ จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดว่า แช่น้ำกี่วันถึงจะถือว่าเสียหายทั้งคันและต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใหม่ หรือ ต้องเอาแบตเตอรี่เดิมมาตรวจสอบ เพื่อเคลมประกันให้ในการซ่อมแซมแทน และการจ่ายค่าชดเชยจะจ่ายให้เฉพาะแบตเตอรี่ หรือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถด้วย

ทั้งนี้มาตรฐานกลางทั้งหมดจะสรุปออกมาภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อแจ้งให้ประชาชนผู้ประสบภัยรับทราบ นำไปสู่การเตรียมพร้อมทั้งข้อมูลและหลักฐานความเสียหายของรถ ในการนำไปยื่นเรื่องเพื่อเคลมประกันกับบริษัทประกันภัยได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องต่อไปหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายหลังจากนี้

...