ทีมนักวิจัยจากอินโดนีเซียและนานาชาติยืนยันการค้นพบ Rafflesia hasseltii หรือดอกบัวผุดหายากในพื้นที่อนุรักษ์ในเกาะสุมาตราตะวันตก หลังจากค้นหานานถึง 13 ปี ความสำเร็จนี้มีส่วนสำคัญในโครงการศึกษาความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของบัวผุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์จีโนมเต็มรูปแบบจากสถาบันวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติอินโดนีเซีย (BRIN) และมหาวิทยาลัยเบิงกูลู

นายเซปเชียน อันดริกิ นักพฤกษศาสตร์และนายคริส โธโรกูด จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ได้ใช้เวลาเกือบหนึ่งวันในการเดินทางผ่านป่าฝนเพื่อค้นหาดอกไม้ชนิดนี้ ซึ่งไม่ได้เห็นมานานกว่าทศวรรษ เมื่อพบเขารู้สึกดีใจและกล่าวว่า “มันคือการรอคอยนานถึง 13 ปี”

นายโจโก ริโด วิโตโน นักวิจัยจาก BRIN กล่าวว่า “การค้นพบนี้ช่วยเสริมสถานะของอินโดนีเซียในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายของบัวผุดมากที่สุดในโลก” โดยปัจจุบันมีการบันทึกบัวผุดในอินโดนีเซียรวม 16 สายพันธุ์

การวิจัยนี้เริ่มขึ้นในต้นปี 2025 ทีม BRIN จะดำเนินการเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่าง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและฟิลิปปินส์จะทำการวิจัยคู่ขนาน

นายโจโกยืนยันว่าการวิจัยทั้งหมดดำเนินการอย่างถูกกฎหมายและได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด รวมถึงโครงการ RIIM Expedition

การค้นพบ Rafflesia hasseltii ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ โดยมีการบันทึกภาพการบานของดอกในพื้นที่อนุรักษ์ที่ชุมชนดูแล นอกจากนี้ยังมีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์โดยชุมชน เพื่อป้องกันการคุกคามจากกิจกรรมของมนุษย์

การวิจัยใช้วิธี Whole Genome Sequencing (WGS) ซึ่งแตกต่างจากการวิจัยในอดีตที่ใช้เพียงชิ้นส่วนยีนเล็ก ๆ การวิจัยนี้เผชิญความท้าทายมากมาย เนื่องจากดอกบัวผุดมีอายุการบานสั้นและตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล

นายโจโกยังกล่าวถึงความสำคัญของการสนับสนุนจากภาครัฐและชุมชนในการอนุรักษ์บัวผุด พร้อมระบุว่าทีมวิจัยจะร่างข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อยุทธศาสตร์การอนุรักษ์บัวผุดแห่งชาติต่อไป