สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อม 100% รับคนไทยกลับจากกัมพูชาทันทีที่ประสานสำเร็จ คาดมีคนไทย 7-8 พันคน ต้องการกลับประเทศ แต่กัมพูชายังไม่มีนโยบายส่งคนไทยกลับ

วันที่ 12 ธันวาคม 2568 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีที่ฝ่ายไทยประสานขอความร่วมมือทางมนุษยธรรมจากฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้พลเมืองไทยที่ตกค้างสามารถข้ามแดนกลับประเทศได้ โดยเฉพาะจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมพร้อมแล้ว 100% ในการรับคนไทยทั้งหมดกลับประเทศทันทีที่การประสานงานประสบความสำเร็จ 


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ตำรวจภูธรภาค 2, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับกองกำลังบูรพา, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ได้เตรียมความพร้อมในการรับคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร 

...

ทั้งนี้คนไทยที่เดินทางกลับมาจะต้องเข้าสู่กระบวนการรับตัวและคัดกรองตามขั้นตอน กลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism - NRM) ตามหลักสากล เพื่อคัดแยกและตรวจสอบหลักฐานการเข้า-ออกประเทศ และตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และในส่วนของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมจะได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป


ส่วนที่ห้องประชุม จว.สระแก้ว พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ตอท. พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วยตำรวจไซเบอร์ ตำรวจสอบสวนกลาง ภ.จว.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว ร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางมาตรการรับกลุ่มคนไทยจากประเทศกัมพูชาเดินทางกลับประเทศไทย และตรวจความพร้อมของด่านพรมแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว

พล.ต.ท.สุรพล เผยว่า จากการประชุมได้กำหนดแนวทางในการปฏิบัติโดยให้ เจ้าหน้าที่ ตม. และหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับหากมีการปล่อยตัวคนไทยจากกัมพูชา โดยให้เดินทางกลับเข้าประเทศได้ให้มากที่สุด และไม่มีข้อจำกัดจำนวนคนแต่ละวัน และคัดกรองบุคคลที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ต้องดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้คัดกรองบุคคลผู้มีหมายจับ หรือถูกแจ้งความ หากพบก็จะจับกุมดำเนินคดี ซึ่งผู้ที่เดินทางกลับทุกคนต้องผ่านการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ (Biometric) ของ สตม. และ บช.ก. โดยใช้เครื่องมือปฏิบัติการพิเศษตรวจเก็บข้อมูลพยานหลักฐานทางดิจิทัล (Cellebrite) ของ บช.สอท., บช.ก. และ ภ.2 มาสนับสนุนภารกิจเพื่อจัดทำประวัติเก็บไว้ในฐานข้อมูล อีกทั้งเพื่อสามารถติดตามตัวบุคคลดังกล่าวมาซักถามเพิ่มเติม หรือดำเนินคดีภายหลังได้


โดยกำหนดให้ ภ.จว.สระแก้ว เป็นศูนย์ปฏิบัติการ และใช้อาคารโรงยิมของ ม.บูรพา วิทยาเขตสระแก้ว เป็นสถานที่ดำเนินการคัดกรองบุคคล เพื่อดำเนินการกระบวนการคัดแยกเหยื่อจากขบวนการค้ามนุษย์ และส่งตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย

สถานการณ์ปัจจุบัน มีคนไทยมายืนรอที่หน้าด่านฝั่งกัมพูชาเพื่อรอกลับประเทศไทย รวมกว่า 100 คน แต่ไม่สามารถข้ามแดนกลับมาได้ โดยจากการข่าวทราบว่า กัมพูชายังไม่มีนโยบายปล่อยตัวคนไทย จากการคาดการณ์เบื้องต้น คาดว่า มีคนไทยที่ต้องการกลับประเทศประมาณ 7-8 พันคน ซึ่งเป็นกลุ่มคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศเอง ไม่ใช่กรณีร้องขอเดินทางกลับประเทศไทยแบบขอหนังสือเดินทางฉุกเฉินผ่านสถานทูต โดยมีการนัดแนะกันผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งขณะนี้ฝ่ายทางการของเมืองปอยเปต กัมพูชา อยู่ระหว่างประชุมหารือปล่อยตัวคนไทยกลับประเทศ