เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดที่บุรีรัมย์ เร่งอพยพกลุ่มเปราะบาง ไปยังศูนย์พักพิงฯ เพื่อความปลอดภัย ขณะที่หน่วยความมั่นคง ยังติดตามสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้เผยแพร่ข้อมูล ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงในพื้นที่บริเวณ ภูผาเหล็ก- พลาญหินแปดก้อน ส่งผลให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องดำเนินการโต้ตอบ โดยเกิดการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มใช้อาวุธ ปรส. ต่อมาในเวลา 14.50 น. การปะทะได้ยุติลง อย่างไรก็ตาม หน่วยในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน และมีแนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดำเนินการอพยพไปยังศูนย์พักพิงตามแผนอพยพประชาชน เพื่อความปลอดภัย

ที่ จ.บุรีรัมย์ นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรายุส์ จันทร์เยี่ยม ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ นายภูษิต เล็กอุดากร นายก อบจ.บุรีรัมย์ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำเจ้าหน้าที่เข้าจัดเตรียมศูนย์อพยพสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เพื่อรองรับผู้อพยพทั้งหมด โดยจัดพื้นที่พักพิงชั่วคราว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำดื่ม ห้องน้ำสะอาด ระบบแพทย์ฉุกเฉิน และมาตรการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยหน่วยงานฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งระดมกำลังสนับสนุนการอพยพและลำเลียงประชาชน โดยให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วย และกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ 

...


ล่าสุด อำเภอบ้านกรวด ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ สายตะกู, จันทบเพชร, บึงเจริญ, หนองไม้งาม, บ้านกรวด และปราสาท รวมประชาชนที่ต้องเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ จำนวน 35,000 คน และคาดว่าจะมาที่ศูนย์อพยพ ประมาณ 13,000 คน

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ สั่งเพิ่มจุดประสานงานในศูนย์อพยพ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านข้อมูล การลงทะเบียน และการติดตามญาติ พร้อมย้ำว่าจังหวัดมีศักยภาพรองรับผู้อพยพทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงยังคงติดตามสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับมาตรการดูแลประชาชนตามความจำเป็น