กองทัพยัน “ระบอบฮุนเซน” คือต้นตอความขัดแย้ง ไทยปกป้องอธิปไตยภายใต้หลักมนุษยธรรม เผยกัมพูชาเสียทหารแล้วกว่าครึ่งพัน
วันที่ 15 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงจุดยืนไทย 7 ข้อว่า ไทยไม่ใช่ผู้เริ่มต้นเหตุความขัดแย้ง แต่ใช้สิทธิตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง หลังถูกโจมตีด้วยอาวุธหนักก่อน และไทยปฏิบัติการภายใต้กฎบัตร UN อย่างเคร่งครัดและได้สัดส่วน หลีกเลี่ยงการโจมตีที่กระทบพลเรือน มุ่งเป้าหมายเฉพาะฐานทหารที่คุกคามเท่านั้น
โฆษกกระทรวงกลาโหมยังชี้แจงกรณีที่กัมพูชานำภาพเจ้าหน้าที่ฉีดพ่นยากันยุงไปบิดเบือนว่าเป็นปฏิบัติการทางเคมีโจมตีกำลังพลว่า เป็นภาพเฟกนิวส์ชัดเจน หวังสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนและประชาคมโลก ยืนยันว่าความขัดแย้งนี้ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เกิดจาก “ระบอบของฮุนเซน” และรัฐบาลกัมพูชา
นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกคำสั่งควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสกัดการนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ในการสู้รบของกัมพูชา และต้องขออภัยพี่น้องชาวลาวที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้
ด้าน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กัมพูชาโจมตีเข้ามาในพื้นที่พลเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนต้องประกาศห้ามประชาชนเข้าพื้นที่ และคาดการณ์ความสูญเสียของกัมพูชาอยู่ที่ทหารเสียชีวิต 505 นาย และทำลายฐานที่มั่นอาวุธยิง และยานรบต่างๆ ไปประมาณ 82 แห่ง เป็น BM-21 จำนวน 1 ระบบ รถถัง 12 คัน ยานรบต่างๆ รวมถึงยานเกราะ 10 คัน ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน(ปตอ. ) 4 ระบบ ปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด 7 กระบอก แอนตี้โดน 5 จุด และโดรน 175 ลำ
...
พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ยืนยันว่า เป้าหมายที่ไทยโจมตีล้วนเป็นเป้าหมายทางทหาร และการปฏิบัติการอยู่บนพื้นฐานการปกป้องอธิปไตยและหลักมนุษยธรรม โดยไม่มีความต้องการให้กระทบต่อประชาชนทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา
น.อ.นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงการประกาศจำกัดอาณาเขตในอ่าวไทยว่า เป็นการประกาศ พื้นที่เสี่ยงภัยสูงสำหรับเรือสัญชาติไทยเท่านั้น เพื่อสกัดการลำเลียงยุทธปัจจัย ไม่ใช่การ “ปิดอ่าว” หรือ “บล็อกเขต” ซึ่งจะเป็นการกระทบต่อประเทศที่ 3 และฝ่ายไทยย้ำว่าจะหลีกเลี่ยงการขยายความขัดแย้ง