“ศักดิ์ดา” ประชุม ปภ. ติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ กำชับทุกหน่วยเร่งบูรณาการสรรพกำลังฟื้นฟูพื้นที่ต่อเนื่องตามเป้า “7 วันกลับบ้าน 14 วันสะอาด”
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. 2568 ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมถึงการติดตามและคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ในระยะต่อไป โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านกิจการความมั่นคงภายใน ในฐานะผู้กำกับควบคุมพื้นที่ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งประจำการอยู่ที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา รวมถึงนางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากหน่วยงานการสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ทั้ง 18 ส่วนงาน ร่วมประชุม ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ยึดแนวทาง 14 วันต้องสะอาด
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น พบว่า ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่ติดทะเลสาบสงขลาและพื้นที่ลุ่มต่ำ และหลายพื้นที่ได้เข้าสู่กระบวนการของการฟื้นฟูพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ จึงขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานได้ประสานการปฏิบัติร่วมกันอย่างใกล้ชิด เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชน เพื่อคืนพื้นที่ชุมชน บ้านเรือน ห้างร้าน รวมถึงการขนย้ายและจัดการขยะ การดูแลระบบสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ประปา บ้านเรือนประชาชน ถนน และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ แม้ว่าจะสามารถกลับมาใช้งานได้เกือบปกติแล้ว ยังมีบางจุดที่ยังต้องเร่งซ่อมแซมเพื่อให้สามารถใช้งานได้โดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนกลับเข้าพักที่พักอาศัย และใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ตามแนวทาง 7 วันกลับบ้าน 14 วันสะอาด
...

กำชับแผนป้องกันโรคระบาด
นายศักดิ์ดา กล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลสุขภาพประชาชนและการป้องกันโรคระบาด ขอให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลสุขอนามัยของประชาชน โดยจัดหายา อุปกรณ์ และบุคลากรในการรักษาพยาบาลที่เพียงพอ รวมถึงวางแผนเฝ้าระวังโรคระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่มากับน้ำภายหลังน้ำลดและโรคระบาดที่จะอาจมากับขยะที่สะสมเป็นเวลานาน สำหรับการขนย้ายขยะและการจัดการขยะ ต้องเร่งขนย้ายขยะออกจากบ้านเรือนประชาชนไปยังจุดพักกองโดยเร็ว พร้อมคัดแยกขยะ และขนย้ายขยะไปยังจุดพัก โดยใช้น้ำหมักหรือสารระงับกลิ่นฉีดพื้นบริเวณกองขยะ เพื่อไม่ให้กลิ่นรบกวนชุมชนที่อยู่บริเวณโดยรอบ และป้องกันมลพิษและน้ำเสียในระหว่างรอกำจัดด้วยเตาเผาผลิตพลังงาน อีกทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการ ชันสูตร พิสูจน์อัตลักษณ์ ผู้เสียชีวิตโดยด่วน เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาค่าปลงศพให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จังหวัดให้เร่งสำรวจข้อมูลประชาชนที่ยังคงมีการลงทะเบียนเพื่อขอรับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างครบถ้วนและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
เร่งสำรวจความเสียหาย
อีกทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงคมนาคม เปิดพื้นผิวการจราจร โดยเฉพาะถนนสายหลัก สำหรับรถที่ยังไม่พบเจ้าของรถ ขอให้ดำเนินการนำไปเก็บในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้กีดขวางทางจราจร ในส่วนของการดำรงชีพและที่อยู่อาศัย ขอให้ทุกหน่วยงานยังคงช่วยกันดูแลจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันให้กับประชาชนให้เพียงพออย่างต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง รวมถึงให้จังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน เพื่อจะได้จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนตามระเบียบราชการที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยและครอบครัวผู้เสียชีวิต

คาดอาจมีฝนตกเพิ่ม
“นอกจากนี้ จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับหน่วยงานด้านการพยากรณ์ พบว่า ในช่วงประมาณกลางเดือนธันวาคม ช่วงวันที่ 11 - 14 ธ.ค. 68 คาดการณ์ว่าอาจจะมีฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ ปริมาณฝน สภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มอาจจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ จึงขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านระบบเตือนภัย ด้านการอพยพ ด้านทรัพยากรเครื่องจักรกลและกำลังพล และด้านการแพทย์และสาธารณสุข และต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการให้มีความพร้อม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ภัยซ้ำขึ้นอีก” นายศักดิ์ดา มท.3 กล่าว
ปภ.แจงระบบไฟครอบคลุมยกเว้น เขต 8
ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ผ่านมาได้ดำเนินการแจกจ่ายถุงยังชีพ ข้าวกล่อง น้ำดื่ม โรงครัวสนามมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับด้านสาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้าได้มีการจ่ายครอบคลุมทุกพื้นที่ ยกเว้นแต่พื้นที่เขต 8 ที่ประชาชนบางส่วนไม่ได้อยู่ภายในบ้าน จึงไม่สามารถเข้าสำรวจอุปกรณ์ได้ แต่ส่วนระบบประปาสามารถฟื้นฟูระบบผลิตและจ่ายน้ำได้ครอบคลุม 100% และระบบสื่อสารสามารถใช้งานได้ปกติทุกพื้นที่ ทางด้านการฟื้นฟูพื้นที่หาดใหญ่ มีความคืบหน้าในทุกเขต ส่วนการจัดการขยะในพื้นที่ ทางกองบัญชาการฯ (ส่วนหน้า) ได้วางแผน ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดการขยะอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานกรมอนามัย กรมควบคุมมลพิษ เข้าพื้นที่เพื่อพ่นยาฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นจากกองขยะ โดยเฉพาะบริเวณกองขยะชั่วคราว เพื่อป้องกันโรคติดต่อที่จะตามมาภายหลัง ซึ่งจากการประเมินประสิทธิภาพการดำเนินการฟื้นฟูในพื้นที่เบื้องต้น คาดว่า ภายในอาทิตย์นี้จะสามารถจัดการฟื้นฟูพื้นที่ได้แล้วเสร็จ เพื่อพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเป็นไปตามเป้าหมายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ได้กำหนดไว้
