เกิดเหตุชาวจีน กว่า 300 คน ก่อจลาจลในห้องกักของ ตม.ตาก ต้องระดมกำลังทหาร ตำรวจ ตชด. และรถดับเพลิงระงับเหตุ ทำลายทรัพย์สินทางราชการ ขณะเดียวกันมีรายงานว่าสแกมเมอร์จีนเทา จุดไฟเผาอาคารสำนักงานในพื้นที่ของกะเหรี่ยงเคเอ็นยู
เมื่อเวลา 10.15 วันที่ 10 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 23.30 น. คืนวันที่ 9 ธ.ค.68 (วานนี้) เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก (ตม.จว.ตาก) ได้รับแจ้งเหตุ บุคคลต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวนกว่า 300 คน ได้ก่อเหตุจลาจล สร้างความวุ่นวายในสถานที่ควบคุมตัวบุคคลต่างด้าว ขณะรอการส่งกลับ และคุมขังชั่วคราว บริเวณหลังกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จึงประสานฝ่ายทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 35 อ.แม่สอด ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 และตำรวจ สภ.แม่สอด รวมทั้งรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลท่าสายลวด เพื่อเข้าไประงับเหตุ ซึ่งกลุ่มชาวจีนได้ทำลายทรัพย์สินทางราชการเช่น กล้องวงจรปิด ตู้เอกสาร และเก้าอี้พักคอยเป็นต้น รวมทั้งมีการทะเลาะวิวาทกันเอง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
...
ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุนั้น มีการส่งคนไปเจรจาถึงความต้องการ ทราบว่า อยากจะให้เจ้าหน้าที่ส่งตัวกลับประเทศจีนให้เร็ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำใส่ผู้ก่อเหตุ และเข้าไปควบคุมตัวได้โดยไม่มีการสูญเสียใดๆ และกำลังสอบสวน ตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติว่า หนีออกไปหรือไม่
...
ขณะที่ทาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานข้อมูลรายละเอียดกับหน่วยในพื้นที่ เพื่อชี้แจงต่อสื่อมวลชนในภาพรวมของ สตม.ต่อไป
...
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ธ.ค.68 เจ้าหน้าที่ทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) แจ้งว่า กลุ่มชาวต่างชาติ สัญชาติจีนเป็นส่วนมาก ที่ไม่ได้ออกมาจากแหล่งสแกมเมอร์ ได้ก่อเหตุเผาอาคารสแกมเมอร์ออนไลน์ ที่บริเวณบ้านมินลาป่าน อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านห้วยมหาวงศ์ และบ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อ.แม่สอด จังหวัดตาก โดยชาวต่างชาติทั้งหมดได้ร่วมกันจุดไฟเผาอาคารที่ทำงานของพวกเขาและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ จนเพลิงได้ลุกไหม้เห็นควันดำสูงพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า มองจากฝั่งไทยเห็นได้ชัดเจน
...
ทางฝ่ายทหารเคเอ็นยู และชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีใครสามารถไปดับไฟได้ เพราะไม่มีน้ำ แม้ว่า จะอยู่ใกล้กับแม่น้ำเมย แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากความคลุ้มคลั่ง ที่ไม่สามารถไปไหนได้ จะข้ามมาทางฝั่งไทยก็ไม่ได้ คาดว่าคงถูกกดดันมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไฟที่ลุกไหม้สูงมาก ดูจากฝั่งไทยมีควันดำลุกไหม้อาคารหลังหนึ่ง และอยู่ใกล้กับอาคารอื่นๆ อีก สำหรับจุดเกิดเหตุใกล้กับบ้านมินลาป่าน ซึ่งเป็นพื้นที่การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับฝ่ายเคเอ็นยู ซึ่งล่าสุดเสียงปืนจากการสู้รบสงบลง แต่ฝ่ายทหารเมียนมายังไม่สามารถยึดบ้านมินลาป่านได้ ขณะที่ชาวบ้านฝั่งเมียนมา รวมทั้งชาวต่างชาติไปรวมตัวกันสร้างเพิงอยู่บนหาดทรายแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นการลี้ภัยจากการสู้รบ.
