ตำรวจศรีลังกาจับกุมชาย 3 คน หลังมีคลิปเผยแพร่ว่ามีการจุดไฟเผาช้างป่าเป็น ๆ ขณะพยายามขับไล่ออกจากหมู่บ้านในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ จนจุดกระแสความโกรธแค้นและเสียงประณามอย่างหนักจากสังคม
กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลศรีลังกาอย่างหนัก หลังมีคลิปเผยแพร่เหตุการณ์ที่มีชาย 3 คน ใช้คบไฟจุดไฟ เผาช้างป่าเป็น ๆ ขณะพยายามขับไล่ออกจากหมู่บ้านในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ โดยรายงานท้องถิ่นระบุว่า แม้สัตวแพทย์จะเร่งให้การรักษาอย่างเต็มที่ แต่ช้างเพศผู้ตัวดังกล่าวได้ล้มในวันอังคารที่ผ่านมา หลังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากไฟไหม้ทั่วร่างกาย
มีรายงานว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 42–50 ปี ถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนตามกระบวนการทางกฎหมาย
ข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า ช้างป่าตัวนี้ถูกพบในสภาพ มีบาดแผลไฟไหม้อย่างรุนแรง และยังพบบาดแผลจาก กระสุนปืนที่ขาอีกด้วย นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุช้างตัวดังกล่าวเคยได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์มาแล้วหลายครั้งตลอดปีนี้
คดีดังกล่าวได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในหมู่นักอนุรักษ์สัตว์ นักสิทธิสัตว์ และผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย ที่มองว่าเป็นการกระทำอันโหดร้ายเกินจะยอมรับได้
ล่าสุด มีการเปิดแคมเปญล่ารายชื่อออนไลน์ เรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างถึงที่สุด และเรียกร้องมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อสัตว์ป่าซ้ำอีก โดยภายในเวลาไม่นาน มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วมากกว่า 400 คน
ทั้งนี้ ช้างถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในศรีลังกา ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ช้างบ้านมักถูกใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา และยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์การท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ
องค์กร World Wildlife Fund (WWF) ระบุว่า การฆ่าช้างในศรีลังกาเป็นอาชญากรรมร้ายแรง ซึ่งอาจมีโทษถึงขั้น ประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับช้างป่ากลับทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคร่าชีวิตทั้งคนและสัตว์ โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ มีช้างตายแล้วเกือบ 400 ตัว โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อ Daily Mirror ว่า การเสียชีวิตจำนวนมากเกิดจากฝีมือมนุษย์โดยตรง ทั้งการยิง การถูกรถไฟชน และการใช้ ระเบิดขากรรไกร ซึ่งเป็นเหยื่อล่อระเบิดที่เกษตรกรใช้เพื่อป้องกันพืชผล ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน มีประชาชนมากกว่า 100 คน เสียชีวิตจากการถูกช้างทำร้าย สะท้อนวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ป่าที่กำลังเลวร้ายลงอย่างน่ากังวล.
...
ที่มา : BBC
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ช้างป่า