สำนักงานประกันสังคมได้ชี้แจงถึงการปรับเพดานค่าจ้างที่จะมีขึ้นในช่วงปี 2569-2575 โดยจะมีการกำหนดเพดานค่าจ้างสูงสุดและการคำนวณเงินสมทบ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนในทุกด้าน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการปรับค่าจ้างขั้นสูง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนที่สูงขึ้นจากฐานค่าจ้าง

รายละเอียดการปรับเพดานค่าจ้าง

  • ระยะที่ 1: ปี 2569–2571 กำหนดเพดานค่าจ้างสูงสุดที่ 17,500 บาท เงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
  • ระยะที่ 2: ปี 2572–2574 กำหนดเพดานค่าจ้างสูงสุดที่ 20,000 บาท เงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
  • ระยะที่ 3: ตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป กำหนดเพดานค่าจ้างสูงสุดที่ 23,000 บาท เงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน

การปรับเพดานค่าจ้างนี้จะส่งผลให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือว่างงาน โดยมีการคาดการณ์ว่าเงินทดแทนในกรณีว่างงานจะเพิ่มจาก 7,500 บาทต่อเดือน เป็น 8,750 บาทต่อเดือน

นอกจากนี้ การปรับเพดานค่าจ้างนี้จะทำให้ผู้ประกันตนที่มีค่าจ้างต่ำกว่า 15,000 บาท ยังคงจ่ายเงินสมทบตามปกติที่ 5% ของค่าจ้าง โดยการปรับครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับหลักประกันด้านรายได้ให้เหมาะสมและเป็นธรรม

สำนักงานประกันสังคมจะเร่งดำเนินการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามในร่างกฎกระทรวง เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569