ประวัติ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคกล้าธรรม

เปิดประวัติ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 เตรียมสู้เลือกตั้ง 2569

วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่จับตามองสำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคกล้าธรรม ซึ่งมีการแย้มชื่อมาแล้ว 2 รายชื่อด้วยกัน คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ไว้ในช่วงเช้าวันนี้ เกี่ยวกับการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรม ว่าจะต้องมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 แน่นอน

...

เปิดประวัติ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2508 ปัจจุบันอายุ 60 ปี ชื่อเดิมคือ ยุทธภูมิ โบพรหม, พชร โบพรหม, พชร พรหมเผ่า และมนัส พรหมเผ่า

ประวัติการศึกษา

ร.อ.ธรรมนัส สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 (รวมเหล่ารุ่นที่ 2) ปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 36 ปริญญาโทพุทธศาสนมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พระพุทธศาสนา) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย , ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต Doctor of Philosophy (รัฐประศาสนศาสตร์) CALIFORNIA UNIVERSITY FCE ประเทศสหรัฐอเมริกา

ร.อ.ธรรมนัส เคยเป็นประธานกรรมการบริษัทในเครือธรรมนัสกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ที่สำคัญคือการถือหุ้นใน บจก.รักษาความปลอดภัย ที.พี.การ์ด ซึ่งมีพลเอกไตรรงค์ อินทรทัต อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท และ หจก.ขวัญฤดี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่ นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังเคยเป็นประธานสโมสรฟุตบอลจังหวัดพะเยาอีกด้วย

เส้นทางเข้าสู่การเมือง

ร.อ.ธรรมนัส เข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยเริ่มต้นแตะมือที่พรรคไทยรักไทยของ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2542 ดูแลยุทธศาสตร์เลือกตั้งในสนามกรุงเทพฯ พอเข้าปี 2557 ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้เข้าสมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งหนนั้นเป็นโมฆะ และด้วยความที่เป็นคนพื้นเพ จ.พะเยา จึงมีความสนิทสนมกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ ทักษิณ ชินวัตร

ในปี พ.ศ. 2561 ร้อยเอกธรรมนัสได้เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือของพรรค และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขตที่ 1 โดยชนะอรุณี ชำนาญยา เจ้าของพื้นที่เดิมจากพรรคเพื่อไทย และในปี พ.ศ. 2564 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ต่อมา พ.ศ. 2565 คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐมีมติขับเขา และ สส. อีก 21 คน ออกจากพรรค และในวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ร้อยเอกธรรมนัส ได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย ให้เป็นหัวหน้าพรรค สืบต่อจากพลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ลาออกไปก่อนหน้านั้น

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ร้อยเอกธรรมนัส ได้กลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤษภาคม 2 เดือนต่อมา ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรคให้กลับเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นครั้งที่ 2

ต่อมาในปี พ.ศ. 2567 ภายใต้รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ร.อ.ธรรมนัส นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐจำนวนหนึ่งแยกตัวออกมาจากพรรค และแถลงขอร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหลังสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตัวเขากลับไม่ได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ จึงขอแยกทางกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ต่อมาในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2567 ร.อ.ธรรมนัส ได้ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรม โดยตำแหน่งปัจจุบัน คือประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้ง 2569 มีพรรคต่างๆ ทั้งเก่าและใหม่ลงสนามสู้ศึก หลังจากนี้เตรียมจับตาว่าในการเลือกตั้งใหญ่ พรรคการเมืองใดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นใคร.