อาวุธหลักของทหารราบในกองทัพบกยุคใหม่คือปืนพก ปืนไรเฟิลจู่โจม / ซุ่มยิง ปืนลูกซอง และเครื่องยิงลูกระเบิด  ทั้งหมด เป็นปืนอเนกประสงค์ที่สามารถเลือกโหมดการยิงได้ ใช้กระสุนขนาดกลางที่มีความหลากหลาย ออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายในระยะการรบปกติ (ประมาณ 400 เมตร)  โดยให้ความสมดุลระหว่างอำนาจการยิง ความสะดวกในการพกพา และความน่าเชื่อถือสำหรับสถานการณ์การรบที่หลากหลาย กลายเป็นอาวุธหลักของทหารราบทั่วโลกรวมถึงทหารราบของกองทัพไทย 
ปืนพก 

ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ Fabbrica d’Armi Pietro Beretta Beretta 92F (ขนาด 9 x 19 มม.) 
เบเร็ตต้า 92 คือปืนติดตัวเจ้าหน้าที่แบบพกซองนอก  จุดเด่น คือ การทำงานที่ไว้ใจได้เ  น้ำหนักเบากว่าปืนเหล็กล้วน  จุดด้อยคือไกแข็ง และด้ามค่อนข้างหนา ถ้ามือเล็กจะจับไม่ถนัด แก้ไขได้โดยใช้ประกับด้ามที่บางกว่าของเดิมจากโรงงาน

...

ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ Colt/Royal Thai Army Ordnance Department M1911/M1911A1 (ขนาด .45 นิ้ว) 
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ Colt M1911/M1911A1 ขนาด .45 นิ้ว เป็นปืนในตำนานที่กองทัพไทย (ทั้งบกและเรือ) เคยใช้ เป็นปืนที่ออกแบบโดย John Browning ผลิตโดย Colts Firearms  ตั้งแต่ปี 1911 ใช้กระสุน .45 ACP (11 มม.) เป็นที่รู้จักในเรื่องความทนทานและพลังหยุดยั้ง มีรุ่นย่อยเยอะ และยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ปืนทั่วไปจนถึงปัจจุบัน ทั้งในกองทัพและหน่วยงานราชการต่างๆ

ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ Colt Government Mk IV (ขนาด .45 นิ้ว) 
Colt Government Mk IV ขนาด .45 นิ้ว คือ ปืนพกกึ่งอัตโนมัติรุ่นหนึ่งของ Colt  พัฒนาต่อยอดมาจากตระกูล M1911 กระสุนขนาด .45 ACP มีจุดเด่นที่ความแม่นยำ และความน่าเชื่อถือ  รุ่น Gold Cup National Match Series 80 Mk IV เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเรื่องความแม่นยำ เป็นที่นิยมในกลุ่มนักแม่นปืน มีข้อจำกัดเรื่องการออกแบบที่เก่ากว่าปืนสมัยใหม่ แต่ยังคงเป็นที่ต้องการและได้รับการยอมรับ 

ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ Royal Thai Army Ordnance Department Star Bonifacio Echeverria model M mod (ขนาด .45 นิ้ว) 
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ Ordnance Department Star Bonifacio Echeverria model M mod ขนาด .45 นิ้ว เป็นปืนพกที่ผลิตโดยบริษัท Star Firearms (Star Bonifacio Echeverria S.A.) จากสเปน รุ่น M (หรือ Model M) เป็นรุ่นปืนพกขนาด .45 ACP (11mm) ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ M 1911 แต่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงด้านความทนทานและแม่นยำ มักถูกใช้โดยหน่วยงานตำรวจและทหารในหลายประเทศ และเป็นปืนที่นักสะสมให้ความสนใจ. 

ปืนลูกซอง

...

ปืนลูกซอง Rossi USA Rossi single shot (ขนาด 12 เกจ) 
ปืนลูกซอง Rossi Single Shot ขนาด 12 เกจ เป็นปืนลูกซองแบบนัดเดียว (Break-action) ที่เน้นความเรียบง่าย ทนทาน และคุ้มค่า ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับนักล่าและนักยิงเป้าที่ต้องการปืนที่เชื่อถือได้ ใช้งานง่าย มีทั้งแบบลำกล้องยาว (สำหรับล่าสัตว์) และลำกล้องสั้น (สำหรับป้องกันตัว) โครงสร้างมักเป็นเหล็ก ลำกล้องเหล็ก พร้อมพานท้ายไม้หรือโพลีเมอร์

ปืนลูกซอง Remington Arms Model 870 (ขนาด 12 เกจ) 
Remington Model 870 ขนาด 12 เกจ เป็นปืนลูกซองแบบปั๊มแอ็กชัน (Pump-Action) ที่มีชื่อเสียง ผลิตโดย Remington Arms Company เป็นปืนอเนกประสงค์ ใช้กันอย่างแพร่หลายในการล่าสัตว์ กีฬายิงปืน การป้องกันตัว และงานของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย มีความทนทาน เชื่อถือได้สูง สามารถใช้กระสุนหลากหลายขนาด 12 เกจ และมีระบบป้อนกระสุนจากแม็กกาซีนหลอดภายใน. 

ปืนเล็ก 

...

ปืนเล็กยาว Heckler and Koch HK33/HK33A1 (ขนาด 5.56 x 45 มม.) 
ปืนเล็กยาว Heckler & Koch HK33/HK33A1 คือ ปืนไรเฟิลจู่โจมขนาด 5.56x45mm NATO  พัฒนามาจากปืน G3 ของเยอรมัน ทหารราบของไทยและมาเลเซียใช้ประจำการ  กระสุน 5.56mm เหมือน M16 มีระบบการทำงานแบบ Delayed Blowback (ดีเลย์โบลว์แบ็ก) ทำให้ปลอกกระสุนที่ยิงออกไปมีรอยบากหรือบุบเป็นเอกลักษณ์ นิยมใช้ในหน่วยงานทหารและตำรวจ มีรูปแบบที่หลากหลาย และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ฝึกทางทหาร 

ปืนเล็กยาว Colt M16A1/A2 (ขนาด 5.56 x 45 มม.) 
ปืนกลเบา M16  พัฒนาขึ้นโดยกองทัพบกสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1950  นำไปใช้เป็นครั้งแรกในสงครามเวียดนาม ซึ่งแต่เดิมนั้น ปืน M16 ออกแบบและผลิตโดยบริษัทอาร์มาไลต์ (Armalite) ในปีค.ศ. 1958 โดยเรียกว่าปืนรุ่นนี้ว่า AR-15 สำหรับปืนไรเฟิลอัตโนมัติ AR-15 นี้เป็นปืนไรเฟิลซ้อมยิงที่นิยมกันมากในประเทศสหรัฐอเมริกา มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับปืน M16 ในปัจจุบันนี้ ต่อมาเมื่อบริษัท Armalite ได้ขายแบบพิมพ์เขียวปืน AR-15 ให้แก่บริษัทโคลต์ (Colt Firearms) ปืน AR-15 ก็ได้รับการพัฒนาต่อมาเป็นปืน M16 และเข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯในปีค.ศ. 1964 ส่วนทางกองทัพบกสหรัฐฯก็ได้นำปืน M16 มาพัฒนาต่อเป็นปืน XM16E1 ซึ่งได้เพิ่มระบบคันส่งลูกเลื่อน (Forward Assist Assembly) เข้ามาและเข้าประจำการในกองทัพบกสหรัฐฯพร้อมทั้งเรียกชื่อใหม่ว่า ""US Rifle, 5.56mm, M16A1" ในปีค.ศ. 1967 และยังมีการเปิดสายการผลิตปืน M16 ในรูปแบบอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันในอีกหลายประเทศทั่วโลก

...

ปืนเล็กยาว Colt M16A4 (ขนาด 5.56 x 45 มม.)
 ปีค.ศ. 1994  บริษัทโคลต์ได้มีการปรับปรุงสมรรถภาพของปืน M16A2 อีกครั้งเป็นรุ่น A3 และ A4 ตามลำดับ โดยปืน M16A3 นั้นสามารถยิงได้สองโหมดคือ ยิงทีละนัด (Semi-Auto)และยิงอัตโนมัติเต็มตัว (Full-Auto)เท่านั้น ส่วนปืน M16A4 นั้นจะยิงได้สองโหมดนี้คือ โหมดยิงทีละนัด (Semi-Auto) และแบบอัตโนมัติชุดละ 3 นัด (Three-Burst Auto) โดย M16 A4 มีลักษณะภายนอกคล้ายกับ A2 และ A3  แต่สามารถถอดด้ามหูหิ้ว (Flat Top Receiver) ออกเพื่อใช้ราง Picatinny ในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆได้ ในขณะที่รุ่น A2 และ A3 จะเป็นแบบติดตั้งตายตัว
 

ปืนเล็กยาว Israeli Weapons Industries Tavor TAR-21 (ขนาด 5.56 x 45 มม.) 
ปืนไรเฟิลจู่โจม IWI Tavor ซึ่งเดิมเรียกว่า Tavor TAR-21 (ปืนไรเฟิลจู่โจม Tavor – ศตวรรษที่ 21) เป็น ปืนไรเฟิลจู่โจมแบบบูลพัปของอิสราเอล บรรจุกระสุน ขนาด 5.56×45 มม. NATO ออกแบบและผลิตโดย Israel Weapon Industries (IWI) เป็นส่วนหนึ่งของปืนไรเฟิลตระกูล Tavor ซึ่งได้พัฒนารูปแบบต่างๆจากการออกแบบดั้งเดิม


ปืนเล็กยาวซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติ Knights Armament SR-25 (ขนาด 7.62 x 51 มม.) 
SR-25 เป็นปืนสไนเปอร์จาก Knight Armament  คำว่า SR ย่อมาจาก Stoner's Rifle มีรูปร่างคล้าย M16 แต่มีขนาดใหญ่กว่า ชิ้นส่วนกว่า 60 % ใช้ร่วมกับ  M16 ได้ ปืนซุ่มยิง SR25 ผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองและเติมเต็มภาระกิจของปืนซุ่มยิง เช่นการคุ้มกันหน่วยทหารในการผ่านพื้นที่อันตราย ด้วยการยิงแบบฉับพลันเพื่อตอบโต้เป้าหมายที่มองไม่เห็น ซึ่งปืนซุ่มยิงในแบบโบลท์แอคชั่นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเงื่อนไขของการบรรจุลูกปืนให้เร็วเพื่อยิงได้ SR 25 เป็นปืนที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในด้านความแม่นยำ และความแข็งแรงทนทาน และด้วยรูปร่าง และระบบการยิงที่คล้ายคลึงกับ AR15/M16 จึงทำให้สามารถทำการยิง/เปลี่ยนแมกกาซีน ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ใช้กระสุนขนาด 7.62*51 มม. NATO ความจุ มีแบบ 10 และ 20 นัด  SR-25 มี 2 รุ่น คือ SR-25 ปกติ  พานท้ายแบบ M16 และ SR-25 K (หรือ SR-25 Carbine) จะใช้พานท้าย ยืด-หดได้ แบบ M4 

ปืนเล็กยาว NARAC556 
มีพื้นฐานพัฒนาปรับปรุงจากจากปืนเล็กยาวตระกูล Colt AR-15 สหรัฐฯ ซึ่งประจำการในกองทัพบกไทย , กองทัพเรือไทย , กองทัพอากาศไทย  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในหลายรุ่นเช่น ปืนเล็กยาวจู่โจม M16A1, ปืนเล็กยาวจู่โจม M16A2, ปืนเล็กยาวจู่โจม M16A4, ปืนเล็กสั้น Colt Commando(CAR-15) และปืนเล็กสั้น M4 เป็นต้น ปืนเล็กยาว NARAC556 ทำงานด้วยระบบแก๊ซลูกสูบช่วงชักสั้น มีตัวหมุนปรับระดับอัตรายิง ลำกล้องวางในโครงปืนส่วนบนแบบลอยอิสระ โครงปืนส่วนล่างเป็นแบบมาตรฐานปืนเล็กยาวตระกูล AR15 รองรับซองกระสุนขนาด 5.56mm มาตรฐาน NATO ความจุ 30 นัด คันบังคับการยิงปรับได้สามระดับ คือ ห้ามไก(Safe), ยิงทีละนัด(Semi) และยิงกล(Auto) รวมถึงปุ่มปลดซองกระสุนและปุ่มปลดลูกเลื่อนสามารถควบคุมได้ทั้งได้ซ้ายและขวา มีความแข็งแรงทนทาน สามารถปฏิบัติการได้สภาพอากาศ น้ำหนักเบา(ตัวปืนเปล่า 2.9kg) แรงถอยต่ำ แม่นยำ คล่องตัว ชิ้นส่วนของปืนเล็กยาว NARAC556 ร้อยละ 80 ผลิตในไทย  มีการสร้างปืนต้นแบบจำนวน 16 กระบอกและผ่านการทดสอบตามมาตรฐานโดยคณะกรรมการมาตรฐานอาวุธยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหมแล้ว เช่น ความทนทานการยิงกระสุนถึงกว่า 6,000 นัด โดยรุ่นความยาวลำกล้อง 20" และรุ่นความยาวลำกล้อง 14.5" ที่กระทรวงกลาโหมไทยสั่งจัดหา ถูกนำเข้าประจำการในชื่อปืนเล็กยาว MOD 963 และปืนเล็กยาวจู่โจม MOD 963 AR ตามลำดับ 

ปืนเล็กยาวซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติ Israeli Weapons Industries Galil Sniper (Galatz) (ขนาด 7.62 x 51 มม.) 
ปืนไรเฟิล GALIL พัฒนาในช่วงเริ่มแรกสามารถใช้กระสุน NATO 7.62mm  แต่หลังจากนั้นได้พัฒนาต่อมาอีก 4 เวอร์ชั่น (ARM, AR, SAR, Micro) โดยใช้กับกระสุนขนาด 5.56 mm และรุ่นล่าสุดของ GALIL ที่สามารถใช้กับกระสุน NATO เวอร์ชั่น 7.62 ถูกพัฒนาออกมาเป็นปืนสไนเปอร์ไรเฟิล GALAT Z 7.62mm

ปืนเล็กยาวซุ่มยิงโบลท์แอ็คชั่น SIG-Sauer SSG 3000 (ขนาด 7.62 x 51 มม.)
ปืนซุ่มยิง SIG-Sauer SSG 3000 ออกแบบและผลิตโดยบริษัท SIG Sauer เมื่อปี 1992 เป็นปืนที่พัฒนามาสำหรับหน่วยทหารและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะ  ปีนสไนเปอร์ SIG Sauer SSG 3000 มีแบบรุ่นเก่าและรุ่นใหม่  ตัวปืนรุ่นเก่า มีช่องรูระบายอากาศบนตัวปืน ส่วนตัวปืนรุ่นใหม่ไม่มี  ตัวปืนทำจากวัสดุโพลิเมอร์พลาสติกแข็งน้ำหนักเบา แผ่นรองแก้มปรับได้ ด้ามจับขนาดกำลังพอดีมือ  ปุ่มเซฟตี้ของปืนสามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ตัวลูกเลื่อนหรือ Bolt ชักเข้า-ออก ได้อย่าง ลื่นไหล ไม่ติดขัด ตัวโครงปืนสามารถประกอบได้โดยสะดวก ไม่ยุ่งยาก และสามารถติดตั้งกล้องเล็งกับขาทราย 

 ปืนกล

ปืนกลเบา Fabrique Nationale M249 (ขนาด 5.56 x 45 มม.) 
ปืน Fabrique Nationale M249 (5.56 มม.) หรือที่รู้จักในชื่อ M249 SAW (Squad Automatic Weapon) คือปืนกลเบามาตรฐานของกองทัพสหรัฐฯ พัฒนาจากปืน FN Minimi ของเบลเยียม ใช้กระสุน 5.56x45 mm NATO เป็นปืนที่ยิงอัตโนมัติโดยใช้ระบบแก๊ส น้ำหนักเบา ทรงพลัง ทำหน้าที่สนับสนุนการยิงของหน่วยทหารราบ มีรุ่นย่อยมากมาย เช่น M249 Para, SPW, และ Mk 46 ที่ปรับแต่งสำหรับหน่วยรบพิเศษ. 

ปืนกลเบา Fabrique Nationale Minimi (ขนาด 5.56 x 45 มม.) 
FN Minimi (Fabrique Nationale Minimi) คือ ปืนกลเบา (Light Machine Gun) ขนาด 5.56x45 มม. พัฒนาโดย FN Herstal ของเบลเยียม เป็นอาวุธสนับสนุนการยิงอัตโนมัติสำหรับหน่วยทหาร ออกแบบโดย Ernest Vervier เปิดตัวปลายทศวรรษ 1970 และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในชื่อ M249 SAW ในกองทัพสหรัฐฯ จุดเด่นคือความน่าเชื่อถือ น้ำหนักเบา และความสามารถในการป้อนกระสุนจากทั้งสายกระสุน (Belt-fed) และกล่องแม็กกาซีน (Magazine-fed) โดยใช้กระสุน 5.56mm NATO ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการยิงสนับสนุนการเข้าตีด้วยหน่วยทหารขนาดเล็ก 

ปืนกลเบา Israeli Weapons Industries Negev (ขนาด 5.56 x 45 มม.) 
ปืนกลเบา IWI Negev ขนาด 5.56x45mm เป็นปืนกลที่ผลิตโดย Israeli Weapons Industries (IWI) เน้นความคล่องตัวและใช้งานกับกระสุน 5.56x45mm NATO เป็นหลัก สามารถป้อนกระสุนได้ทั้งจากสายพานแบบ M27 (ในกล่อง 150 นัด หรือ 200 นัด) และซองกระสุนแบบ STANAG 30 นัด หรือซองจากปืน Galil ได้ โดยใช้กลไกป้อนกระสุนจากสายพานที่ด้านซ้ายและแม็กกาซีนที่ฐานตัวรับกระสุน ทำให้เป็นปืนกลที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบรรจุกระสุนได้หลากหลายสำหรับทหารราบ

เครื่องยิงลูกระเบิด 
เครื่องยิงลูกระเบิด US Army Springfield Armory M79 (ขนาด 40 มม.) 
M79 จัดอยู่ในประเภท เครื่องยิงลูกระเบิด (Grenade Launcher) ขนาด 40 มม. ประวัติของปืนยิงลูกระเบิด ย้อนไปได้ไกลถึงสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยุคสงครามเย็น เมื่อกองทัพสหรัฐอเมริกา ต้องการอุดช่องว่างระหว่างลูกระเบิดขว้าง ที่แม้ทหารจะพกพาไปได้แต่ก็ขว้างได้ไกลสุดเพียงไม่กี่สิบเมตร ขณะที่ ปืนครก ค.60 (60 mm. Mortar) ระยะหวังผลหลายร้อยเมตร แต่ไม่คล่องตัวเพราะต้องตั้งยิงอยู่กับที่ ข้อดี คือ ลูกระเบิดขนาด 40 มม. ยิงด้วยเครื่องยิง ถูกออกแบบให้พุ่งออกไปประมาณ 15-30 เมตร ชนวนจึงจะทำงานให้เกิดระเบิดเมื่อตกกระทบวัตถุ ซึ่งจะทำให้ปลอดภัยกับผู้ใช้มากกว่าลูกระเบิดขว้าง ที่เมื่อดึงสลักแล้วจะทำให้กระเดื่องนิรภัยหลุดออก ชนวนก็จะทำงานส่งผลให้เกิดระเบิดขึ้นในอีก 4-5 วินาทีต่อมา ดังนั้น ผู้ใช้อาจได้รับอันตรายได้ โดยเฉพาะหากเพิ่งเข้าสนามรบใหม่ๆ  

เครื่องยิงลูกระเบิดจากปืนเล็ก Colt M4 M203 (ขนาด 40 มม.)
Colt M203 ขนาด 40 มม. คือ เครื่องยิงลูกระเบิดใต้ลำกล้อง (Underbarrel Grenade Launcher) น้ำหนักเบา บรรจุกระสุนที่ท้ายรังเพลิง ยิงทีละนัด ใช้ยิงสนับสนุนทางยุทธวิธี ติดตั้งกับปืนเล็กยาวเช่น M16 หรือ M4 มีกระสุนหลากหลายชนิด เช่น ระเบิดสังหาร ลูกปราย ควัน และแสง  M203 ป็นปืนยิงระเบิดแบบปั๊มแอคชั่น ติดตั้งเข้ากับปืนไรเฟิล M16A1  ใช้ปลอกโลหะที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ครอบทับโครงเดิมของปืนไรเฟิล การบรรจุระเบิดทำได้โดยการดันลำกล้องไปข้างหน้าและใส่ระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตรเข้าไปในรังเพลิง  ดึงที่จับกลับมาเป็นการขึ้นลำกล้อง และปืนก็พร้อมที่จะยิง M203 มีไกปืนแยกต่างหากสำหรับยิงระเบิด และมีศูนย์เล็งที่ออกแบบโดย AAI ซึ่งทำงานร่วมกับศูนย์หน้าของ M16 เพื่อเล็งเป้าหมาย ปืนชนิดนี้เป็นอาวุธระยะสั้น มักจะยิงแบบวิถีโค้งเพื่อโจมตีเป้าหมายในระยะไกล มีการสั่งซื้อ XM203 จำนวน 600 กระบอกเพื่อทดลองใช้ในเวียดนาม M203 ผ่านการทดสอบและได้รับการยอมรับจากกองทัพในปี 1969 M203 มีระยะยิงเท่ากับ M79  มีรัศมีการระเบิดเท่ากันคือประมาณห้าหลา  มีน้ำหนักครึ่งหนึ่งของ M79  พลยิง M203 สามารถยิงกระสุนทั้งหมด 36 นัดได้ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที  เป็นพลังทำลายล้างสำหรับหน่วยทหารราบขนาดเล็กที่ต้องหยุดยั้งศัตรูอย่างรุนแรงด้วยอาวุธประจำกาย.

 

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected] 
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom  
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358