กองทัพเรือ ยืนยัน ผบ.ทร. ไม่ได้ถูกลอบยิง แต่เป็น ผบ.หน่วยพื้นที่ ด้านโฆษกกองทัพอากาศ ย้ำ ไทยไม่ได้โจมตีพื้นที่อยู่อาศัย พร้อมส่งสัญญาณถึงชนชั้นนำกัมพูชา จะไม่หยุดโจมตีจนกว่าจะรับ 3 เงื่อนไข


วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ร.ท.หญิงนภัสกร ทิพย์โส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า การปฏิบัติการหมวดเรือพิทักษ์อ่าวไทย ทางกองทัพเรือได้ตรวจพบเรือฝ่ายกัมพูชาที่มีลักษณะเดินเรือทิศทางเข้าหาในรูปแบบของการติดตาม ประชิดหมู่เรือ กองทัพเรือ ได้ใช้อาวุธต่อเป้าหมายนั้นและได้มีการเปลี่ยนทิศทางเดินเรือกลับเข้าสู่ประเทศกัมพูชา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์อยู่ในการควบคุม ยืนยันว่าประชาชนมีความปลอดภัยและสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ

ส่วนกรณีข่าวทหารกัมพูชาใช้สไนเปอร์ยิงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือไทย ผู้บัญชาการทหารเรือ นั้น ร.ท.หญิงนภัสกร กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งมีความคลาดเคลื่อน แต่เป็นผู้นำหน่วยในพื้นที่บ้าน 3 หลัง จ.ตราด และพลาดเป้า สำหรับศพของทหารกัมพูชาแนวหน้านั้น ทางกองทัพเรือได้เปิดโอกาสให้ทางฝ่ายกัมพูชาเข้ามารับศพ จึงมีการประสานไปยังโรงพยาบาลตราดเก็บรักษาศพ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งรายงานกลับมาแต่อย่างใด

ในประเด็นการแทรกซึม ทางกัมพูชาได้มีการเปลี่ยนเครื่องแบบเป็นชุดพลเรือนและแฝงตัวอยู่ในประชาชน ซึ่งข่าวในลักษณะนี้ บ่งชี้แนวโน้มจะมีการบิดเบือนว่ากองทัพไทยจะทำร้ายประชาชน โดยกองทัพไทยขอย้ำเราปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด และเราถือเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

ปฏิบัติการต่อเนื่อง จนกว่ากัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไข 3 ประการ

ทางด้าน พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงการโจมตีเป้าหมายทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นการปฏิบัติการ ว่า เรามุ่งเน้นเป้าหมายทางทหาร เป้าหมายที่ฝ่ายทางกัมพูชาเอามาอ้างในวันนี้ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมที่เราเคยโจมตีเป็นกาสิโนร้าง เนื่องจากเป็นศูนย์บัญชาการและควบคุมบัญชาการทางทหารที่ฝ่ายกัมพูชากลับไปใช้อีก กองทัพไทยจึงส่งกำลังทางอากาศไปทำลายอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่ได้โจมตีพื้นที่อยู่อาศัย โรงเรียนสถานศึกษาใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการกล่าวอ้างเฟกนิวส์ที่กัมพูชาทำมาอย่างต่อเนื่อง

...

นอกจากนี้ ปฏิบัติทางอากาศยังโจมตีสะพานโอจิก จ.อุดรมีชัย ที่เชื่อมกำลังรบส่วนหลังไปยังส่วนหน้าของกัมพูชา บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย เนิน 350 อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ การโจมตีสะพานนี้จะทำให้การขนส่งกำลังพลอาวุธยุทโธปกรณ์ทำได้ยากลำบาก เป็นการลิดรอนขีดความสามารถกำลังรบของกัมพูชาและเป็นโอกาสให้กำลังรบของไทย สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อคืน (19 ธันวาคม) ที่ผ่านมา เราใช้ระเบิดที่มีความแม่นยำสูง และควบคุมให้มีการดำเนินการเช่น รถขนอาวุธ BM-21 หรือรถยิง BM-21 แต่ประชาชนกัมพูชาก็ยังสามารถเดินหรือขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามไปได้

“การโจมตีครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ หากตรวจพบว่ากัมพูชายังมีความพยายามใช้สะพานแห่งนี้ส่งกำลังบำรุง ก็จะโจมตีซ้ำ เพราะได้เตือนแล้วให้หยุดส่งกำลังบำรุงไปยังส่วนหน้า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการกดดันและส่งสัญญาณไปถึงกลุ่มชนชั้นนำ ของกัมพูชาว่ากองทัพไทยจะไม่หยุด เราจะปฏิบัติการทหารต่อเนื่องจนกว่ากัมพูชายอมรับเงื่อนไข 3 ประการที่รัฐบาลไทยได้เสนอไป เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและเจรจาเพื่อสันติภาพต่อไปในอนาคต”