รัฐบาลฟิลิปปินส์เผชิญกระแสต่อต้านครั้งใหญ่เมื่อประชาชนจำนวนมาก รวมถึงคณะสงฆ์คาทอลิก ออกมาชุมนุมตามท้องถนนในกรุงมะนิลาและหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีอย่างรวดเร็วต่อสมาชิกสภาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ถูกเชื่อมโยงกับคดีทุจริตงบโครงการควบคุมน้ำท่วมทั่วประเทศ
การประท้วงหลักจัดขึ้นที่อนุสาวรีย์ "พลังประชาชน" บนถนน EDSA ในกรุงมะนิลา โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 5,000 คน ส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีขาว นอกจากนี้ กลุ่มซ้ายจัดยังได้จัดการประท้วงแยกต่างหากในสวนสาธารณะหลักของกรุงมานิลา โดยเรียกร้องอย่างชัดเจนให้เจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดลาออกทันทีและเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดี
ความโกรธแค้นของประชาชนพุ่งสูงขึ้น หลังจากพบว่ามีการทุจริตครั้งใหญ่ในโครงการควบคุมน้ำท่วมทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลให้โครงการต่าง ๆ มีคุณภาพต่ำ ชำรุด หรือไม่มีอยู่จริง ทั้งที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมร้ายแรงและสภาพอากาศสุดขั้วในเขตร้อนเป็นประจำ
ประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ พยายามอย่างหนักในการระงับความไม่พอใจของสาธารณชนต่อกรณีอื้อฉาวนี้ โดยได้กล่าวเตือนถึงความผิดปกติของโครงการควบคุมน้ำท่วมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ผู้ประท้วงเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรส เจ้าหน้าที่ และเจ้าของบริษัทก่อสร้างที่อยู่เบื้องหลังโครงการควบคุมน้ำท่วมที่ผิดปกติหลายพันโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถูกจำคุกและได้รับคำสั่งให้คืนเงินของรัฐบาลที่พวกเขาขโมยไป โดยมีผู้ประท้วงคนหนึ่งสวมเสื้อที่มีข้อความว่า "ไม่เมตตาต่อคนโลภ"
บาทหลวง ฟลาวี วิลลานูเอบา จากนิกายคาทอลิก ซึ่งเป็นผู้นำในการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตนี้ ได้กล่าวกับฝูงชนว่า "หากเงินถูกขโมย นั่นคืออาชญากรรม แต่หากศักดิ์ศรีและชีวิตถูกพรากไป นี่คือบาปต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อประเทศชาติ และที่สำคัญที่สุดคือต่อพระเจ้า" พร้อมเรียกร้องว่า "จงจำคุกผู้ทุจริตและฆาตกรทั้งหมด"
...
เจ้าหน้าที่โยธาธิการอย่างน้อย 7 คน ถูกจำคุกในข้อหาใช้เงินของรัฐโดยมิชอบและข้อหาทุจริตอื่น ๆ จากความผิดปกติในโครงการควบคุมน้ำท่วมเพียงโครงการเดียว และกำลังมีการติดตามตัวผู้บริหารของบริษัท Sunwest Corp. ที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว
ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 พ.ย.) เฮนรี อัลกันตารา อดีตวิศวกรของรัฐบาล ได้ยอมรับสารภาพต่อวุฒิสภาว่ามีส่วนร่วมในการทุจริต และได้คืนเงินสินบน 110 ล้านเปโซ (ประมาณ 60 ล้านบาท) ที่เขาขโมยไป และให้คำมั่นว่าจะคืนเพิ่มเติมอีกในไม่กี่สัปดาห์
ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ เปิดเผยว่าทางการได้อายัดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านเปโซ (ประมาณ 6,577 ล้านบาท) ของผู้ต้องสงสัยในคดีทุจริตโครงการควบคุมน้ำท่วมแล้ว นายมาร์กอส จูเนียร์ เคยให้คำมั่นว่า สว. สส. และผู้บริหารบริษัทก่อสร้างที่ทรงอิทธิพลอีกหลายสิบคนซึ่งพัวพันกับคดีทุจริต จะถูกจำคุกก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ในสถานการณ์ที่ประชาชนแตกแยกและเคยมีการโค่นล้มประธานาธิบดีมาแล้วสองคนในช่วง 39 ปีที่ผ่านมา ได้มีเสียงเรียกร้องให้กองทัพถอนการสนับสนุนรัฐบาลมาร์กอส อย่างไรก็ตาม กองทัพฟิลิปปินส์ ได้ปฏิเสธการเรียกร้องดังกล่าวอย่างหนักแน่น โดยระบุว่ากองทัพยังคงเป็นเสาหลักแห่งเสถียรภาพและเป็นผู้พิทักษ์ประชาธิปไตย
มีการระดมกำลังตำรวจมากกว่า 17,000 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยในการประท้วงในกรุงมะนิลา และพื้นที่รอบทำเนียบประธานาธิบดีมาลากันยังได้ถูกปิดตาย โดยมีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจลาจล รถบรรทุก และรั้วลวดหนามตามถนนและสะพานสำคัญ.
ที่มา AP