โรงพยาบาลเผยผลตรวจ "ยายตายแล้วฟื้น" ไม่พบภาวะหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นมาก่อน อาการหลักคือ "ภาวะน้ำตาลตก"

จากกรณี แฟนเพจเฟซบุ๊ก วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้ไลฟ์สดเหตุการณ์ที่ นายมงคล สกุลคู น้องชายของ นางชลธิรศน์ สกุลคู อายุ 65 ปี เดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก นำร่างของนางชลธิรศน์ ใส่โลงเดินทางไปที่ รพ.จุฬาฯ เพื่อบริจาคร่างกาย แต่ทางโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้ปฏิเสธที่จะรับเพราะไม่มีใบชันสูตรการเสียชีวิต น้องชายตัดสินใจนำร่างของพี่สาวมาที่วัดราษฎร์ประคองธรรม เพื่อทำการฌาปนกิจ

...

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของวัด จะนำร่างของผู้ตายไปประกอบพิธี ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะที่โลงศพ จึงเปิดโลงออกดูพบว่านางชลธิรศน์ขยับตัวได้ สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่วัด หลังหายตกตะลึงทางเจ้าหน้าที่วัดได้นำอุปกรณ์มาตรวจสอบสัญญาณชีพจรนางชลธิรศน์อีกครั้ง พบว่านางชลธิรศน์ยังมีสัญญาณชีพอยู่จึงได้รีบช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลบางใหญ่เพื่อทำการรักษา

ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 2568 ทางโรงพยาบาลบางใหญ่ ได้ติดต่อให้น้องชายมารับพี่สาวกลับไปรักษาตัวพักฟื้นที่บ้านได้ เนื่องจากตรวจอย่างละเอียดแล้วไม่พบภาวะหยุดหายใจ โดยแพทย์ผู้ตรวจอาการยืนยันว่า จากการตรวจร่างกายไม่พบสัญญาณว่าคุณยายมีภาวะหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นมาก่อน อาการหลักคือภาวะน้ำตาลตก ซึ่งได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว

เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมน้องชายรับตัวนางชลธิรศน์กลับมาที่วัด เพื่อจะนำขึ้นรถกลับบ้านที่ จ.พิษณุโลก ทางเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม ได้ขอร้องทางน้องชายให้พี่สาวอยู่รักษาตัวให้หายดีก่อนแล้วค่อยพากลับบ้าน จากนั้นก็ให้รถกู้ภัยนำไปส่งรพ.บางใหญ่

จากการสอบถาม นายมงคล ถึงอาการของพี่สาวก่อนพามาที่วัด นายมงคล เล่าว่า พี่สาวมีอาการหยุดหายใจตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านและญาติได้มาตรวจสอบแล้วพบว่าเสียชีวิตจริง ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้เซ็นเอกสารให้ เพราะตนต้องรีบดำเนินการขอรับบริจาคโลง เนื่องจากพี่สาวได้มอบร่างให้กับทางรพ.จุฬาฯ เกรงว่าถ้าช้าศพอาจจะเริ่มเน่าเพราะไม่สามารถฉีดฟอร์มาลีนได้

ทั้งนี้ หลังได้โลงก็นำร่างพี่สาวใส่โลงแล้วนำผ้าพลาสติคคลุมมาเพื่อไม่ให้ดูอุจาดตา ออกจากบ้านมาตอน 03.00 น. จนมาถึง รพ.จุฬาฯ ในช่วงเวลา 10.00 น. ติดต่อเจ้าหน้าที่ของรพ. แต่ไม่มีใบชันสูตรการเสียชีวิต ทางรพ.แนะนำให้ไปแจ้งความที่สน.ยานนาวา เมื่อไปถึงทางสน.ยานนาวา แจ้งว่าเหตุเกิดที่ไหนให้ไปแจ้งในพื้นที่นั้น ตนจึงตัดสินใจนำร่างพี่สาวมาที่วัดราษฎร์ประคองธรรม เพื่อจะทำพิธีเผาเพราะทราบว่าวัดนี้เผาศพฟรี

เมื่อถามว่าตอนเปิดโลงแล้วพบว่าพี่สาวยังไม่ตายรู้สึกอย่างไรบ้าง นายมงคล เผยว่า รู้สึกเฉยๆ เพราะอยู่กับคนแก่มาเยอะแล้ว และทำงานเกี่ยวกับการดูแลคนแก่

ทางด้าน นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม เผยว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่วัดเตรียมเปิดโลงเพื่อตรวจสอบสภาพศพและทำพิธีตามความเชื่อ ปรากฏว่าได้ยินเสียงคล้ายคนเคาะฝาโลง จึงตัดสินใจเปิดฝาโลงออกมาดูก็พบว่าร่างของยายที่น้องชายเตรียมนำมาเผานั้น ยังหายใจและมีชีวิตอยู่ หลังหายตกตะลึงทางเจ้าหน้าที่วัดจึงได้รีบนำตัวคุณยายส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์แรกของตนที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต หลังจากทำพิธีเผาศพมาแล้วจำนวนหลาย 1,000 ศพ.