ตามที่สำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างเวลา 08.00-14.00 น.โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. มีสมาชิกราชสกุล อาทิ ราชสกุลสนิทวงศ์ ราชสกุลนิลรัตน์ ราชสกุลอรุณวงษ์ ราชสกุลกปิตถา ราชสกุลปราโมช ราชสกุลบรรยงกะเสนา ราชสกุลอิศรเสนา ราชสกุลรังสิเสนา ราชสกุลยุคันธร ราชสกุลรัชนีกร ราชสกุลรองทรง ราชสกุลศิริวงศ์ ราชสกุลคเนจร ราชสกุลงอนรถ ราชสกุลลดาวัลย์ ราชสกุลชุมสาย ราชสกุลอุไรพงศ์ ร่วมในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
ขณะที่บริเวณท้องสนามหลวง ตลอดช่วงเช้า ประชาชนจากทุกสารทิศ อาทิ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี และพระนครศรีอยุธยา รวมถึงคณะบุคคล หน่วยงานต่างๆ เดินทางเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระโกศ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจงรักภักดี โดยกลุ่มชาวบ้านจาก อ.ยะรัง และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อชาวปัตตานีทุกชาติพันธุ์ ทุกศาสนา ให้มีการศึกษาและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยนางสุทัพ สุวรรณชาตี อายุ 72 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี กล่าวว่า สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงมีความห่วงใยชาวบ้านทุกพื้นที่ ตลอดเวลาที่พระองค์ท่านตามเสด็จในหลวง ร.9 มาที่ อ.ยะรัง พระองค์มักจะรับสั่งถามถึงสภาพความเป็นอยู่ ปัญหาความทุกข์ร้อนของพวกเราชาวบ้านทุกครั้ง ทรงให้การศึกษาและอาชีพ ทำให้พวกเรามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้านนายไทวุฒิ ขันแก้ว รองปลัดกรุงเทพ มหานคร เปิดเผยว่า การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในวันที่ 22 พ.ย. มีประชาชนเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง รวม 10,242 คน ส่งผลให้ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.2568 อยู่ที่ 140,194 คน