เปิดใจผู้ชนะการประกวดสุราชุมชน เมรัยไทยแลนด์ 2025 “Langban Premium Column และ อัสดง น่านคลาสสิค 40 ดีกรี” เผยอีกด้านของสุราพื้นบ้านไทย ควรค่าแก่การผลักดันสู่เวทีโลก
ผ่านไปแล้วกับการประกาศผลผู้ชนะการประกวด “สุราชุมชน” ในงานเมรัยไทยแลนด์ 2025 เฟ้นหาสุดยอดเหล้ากลั่นพื้นบ้าน ซึ่งผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ประเภท เหล้าขาว 40 ดีกรี ที่ผลิตโดยการกลั่นแบบ COLUMN STILL มีถึง 2 แบรนด์ด้วยกันคือ Langban Premium Column และ อัสดง น่านคลาสสิค 40 ดีกรี (ประกาศผลผู้ชนะการประกวด “สุราชุมชน” ในงานเมรัยไทยแลนด์ 2025)
โดยตัวแทนของทั้ง 2 แบรนด์ ได้เปิดเผยถึงเบื้องหลังความเป็นมาของตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งคุณชลธี ทำทิพย์ เจ้าของแบรนด์ อัสดง ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรรุ่งเรืองทรัพย์ทวี อ.เวียงสา จ.น่าน ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในครั้งนี้ว่า อุตสาหกรรมสุราชุมชนเพิ่งเริ่มเป็นที่ยอมรับเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา จากแรงเสียดทานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ค่านิยมของคนไทย

...
แต่ในทางกลับกัน ผมมองว่า ถ้าอุตสาหกรรมชุมชนเปิดใจคุยกันจริงๆ มันมีด้านบวกที่เยอะมาก ไม่ใช่แค่การดื่มเพื่อความบันเทิง หากดูในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การใช้แรงงาน คนในชุมชนมีอาชีพ ที่สำคัญคือสังคมไทยเกิดมากับสุรา นี่เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อก้าวเข้ามาในวงการนี้ ผมอยากตีแผ่อีกด้านหนึ่งของสุรา ที่ไม่ใช่แค่ความมึนเมา ไม่ใช่ด้านลบ ซึ่งในปัจจุบันเรามีนวัตกรรม เทคโนโลยี และองค์ความรู้ที่เชื่อว่าสามารถผลักดันสุราชุมชนไทยไปสู่ระดับโลกได้ แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกครอบไว้ไม่ให้สุราชุมชนไทยงอกงาม ในวันนี้ผมใช้ทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการตลาดเพื่อให้ทุกคนรู้ว่า สุราของไทยนั้นพรีเมียม ควรค่าแก่การสนับสนุน ผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ให้ได้

คุณชลธี ทำทิพย์ กล่าวต่อว่า การได้รับรางวัลในครั้งนี้ ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น จะเห็นได้ว่าในปีนี้ มีหลายรางวัลมาจาก จ.น่าน จริงๆ แล้ว เรามีความตั้งใจผลักดันสุราชุมชนไทย แต่ผมยังไม่สามารถเริ่มจากสุราไทยได้ จึงเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ด้วยการผลักดันสุราของ จ.น่าน ซึ่งปัจจุบันใน จ.น่าน มีสุราประมาณ 170 โรงงาน แต่ถ้าถามถึงเรื่องคุณภาพก็อาจจะยังไม่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งผมจะมองว่าทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับมาตรฐาน และในวันนี้ผมพิสูจน์แล้วว่า สุราที่อยู่ในหุบเขานั้น หากทำแบบใส่ใจ “สุราน่าน” ก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน จากปีที่แล้ว เราส่งเข้าประกวด 3 ราย ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 12 ราย
ในปัจจุบันภาครัฐเปิดรับ “สุราชุมชน” มากขึ้นถ้าเทียบกับ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งทางทีมของ จ.น่าน ได้พยายามผลักดันสินค้าจนมีคำกล่าวว่า “มาน่านต้องซื้อสุราน่านกลับบ้าน” จนหน่วยงานภาครัฐยินดีให้เราเข้าร่วมกิจกรรมและพัฒนาคุณภาพกับเขา จึงอยากบอกกับผู้ประกอบการรายเล็กว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องของกฎหมาย ตั้งแต่นี้ต่อไปภาครัฐจะเข้ามาโฟกัสมากขึ้น เพื่อช่วยกันตีแผ่ด้านบวกของสุราชุมชน

ด้านคุณกิตติพันธ์ เทพคะ ผู้บริหารวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปข้าวบ้านป่าเป้า แบรนด์ Langban (หลังบ้าน) กล่าวว่า อยากผลักดันสุราของ จ.น่าน ที่เราผูกพันมาตั้งแต่เกิดให้เป็นที่ยอมรับไปสู่ระดับประเทศ และระดับสากล ให้โลกรู้ว่าประเทศไทยก็มีสุราดี

...
การได้รับรางวัลนี้ เป็นเหมือนสิ่งการันตีว่าสุราชุมชนของเรามีมาตรฐาน และหลังจากนี้ตั้งใจว่าจะต้องพัฒนาต่อไปอีก ผมเชื่อว่าทุกคนเก่งมาก แต่อยากให้ทุกคนลองเปิดใจส่งผลิตภัณฑ์เข้ามาประกวดเพื่อให้สุราขาวของไทยเติบโตไปด้วยกัน
สำหรับงานเมรัยไทยแลนด์ 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–30 พฤศจิกายน 2568 ณ EM WONDER & SPHERE HALL ชั้น 5 ศูนย์การค้า The Emsphere กรุงเทพฯ ที่สำคัญเข้าฟรีตลอดงาน.