นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากกรณีการเผยแพร่เอกสารเส้นทางการเชื่อมโยงกระบวนการฟอกเงินดิจิทัลระดับโลก ซึ่งมีเอกสารข้อตกลง (MOU) ระหว่างกระทรวงดีอี และ บริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore ซึ่งตนได้ทำการยกเลิก MOU ฉบับนี้เรียบร้อยแล้ว และส่งหนังสือเวียนถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับทราบ โดยหากมีการกระทำใด ๆ ภายใต้ MOU นี้ ขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งข้อมูลโดยทันที

ทั้งนี้จากการตรวจสอบได้พบข้อพิรุธในหลายเรื่อง อาทิ การจัดทำ MOU ดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 และมีการลงนามใน MOU วันที่ 27 มีนาคม 2567 ซึ่งใช้เวลาดำเนินการเพียง 3 วัน โดย MOU ดังกล่าวเป็นไปตามที่มีสื่อมวลชนเผยแพร่ในปัจจุบัน
ในส่วนของร่าง MOU นั้น มีการส่งให้กับกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด ในการพิจารณา โดยมีการระบุข้อคิดเห็นจากหน่วยงานว่า ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ตาม MOU จะเป็นของเอกชน 100% ไม่ได้ตกเป็นของรัฐบาลไทยแต่อย่างใด ขอให้มีการปรับแก้ไขให้ ทรัพย์สินทางปัญญา ต้องตกเป็นของรัฐบาลไทย
...

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของตำแหน่งผู้บริหาร บริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore ที่ใช้ในการลงนาม โดยมีชื่อ George Tan ตำแหน่ง Chief Commerce Officer ของบริษัท CAI แต่ลงนามในนามบริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore
กระทรวงดีอี ได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมใน MOU ได้ระบุการจัดทำ “โครงการนำร่องสู่การพัฒนาศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของประเทศไทย” หรือ Thailand International Digital Business & Finance Centre (TIDC) โดยจัดทำโครงการในเชิง Sandbox หรือที่เรียกว่า The Digital Economy Regulatory Sandbox (DERS) โดยปัจจุบันยังไม่พบกฎหมาย หลักเกณฑ์ใด ๆ ในการกำกับดูแลเรื่องของโครงการดังกล่าว ซึ่งกระทรวงฯ ได้จัดทำหนังสือเพื่อให้หน่วยงานในสังกัดรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องและส่งมอบข้อมูลในทันที
ขณะเดียวกันสิ่งที่ตนมีความกังวลเป็นพิเศษคือเรื่องของเป้าหมายของ MOU ที่บางข้อได้ระบุถึงการทำธุรกิจซึ่งเกี่ยวข้อง Sport trading online gaming ที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์อยู่ในนั้น ซึ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยการจะทำ Sandbox จำเป็นที่จะต้องส่งร่าง MOU ไปให้กระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้พิจารณา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีหน่วยงานใด ๆ ได้รับร่างดังกล่าว รวมทั้งหน่วยงานกฎหมายของกระทรวงเอง

“กระทรวงดีอี อยู่ในระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลสัญญาระหว่าง Prime Opportunity Fund VCC Singapore กับ NT เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่ และเรากำลังดำเนินการพิจารณาทั้งในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ภายใต้ พ.ร.ก. มาตรา 13 รวมทั้งส่งข้อมูลให้กับทาง ดีเอสไอ, ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องตรวจสอบว่ามีการนำ MOU ดังกล่าวไปใช้อย่างไรต่อไป” นายไชยชนก กล่าว
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม