คณะกรรมการอิสระต่อต้านการทุจริตของฮ่องกง ได้จับกุมผู้บริหารของบริษัทที่ปรึกษาด้านการปรับปรุงอาคารเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ถูกจับกุมจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ พุ่งเป็น 5 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด ณ บ่ายวันศุกร์ ทะลุ 128 ราย และยังมีผู้สูญหายกว่า 200 ราย ที่ยังไม่ทราบชะตากรรม

สื่อฮ่องกงรายงานความคืบหน้าของโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้ที่อาคารที่พักอาศัย "หวังฟุกคอร์ท" ในเขตต่ายโป  ซึ่งเริ่มลุกไหม้เมื่อช่วงบ่ายวันพุธ (26 พ.ย.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 128 ราย แล้ว ขณะที่ผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 79 ราย และทางการได้รับแจ้งผู้สูญหายถึง 467 ราย ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันชะตากรรมได้ประมาณ 200 ราย

คณะกรรมการอิสระต่อต้านการทุจริต (ICAC) ได้ขยายผลการสอบสวนและเข้าจับกุมกรรมการบริษัท Will Power Architects Company ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่รับผิดชอบโครงการปรับปรุงอาคารในที่เกิดเหตุเพิ่มอีก 2 คน หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของบริษัท Prestige Construction & Engineering Co Limited ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้าง จำนวน 3 ราย ในข้อหาต้องสงสัยว่า ฆ่าคนตายโดยประมาท ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงกรรมการบริษัท 2 ราย ทำให้ยอดผู้ถูกจับกุมรวมเป็น 5 ราย

ทั้ังนี้ มีกรณีขอความช่วยเหลือสำหรับผู้สูญหาย 467 กรณี แต่บางกรณีอาจเป็นผลมาจากการสอบถามที่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 39 ราย บาดเจ็บ 35 ราย กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล พบผู้ปลอดภัย 110 ราย และอีก 200 รายยังคงสูญหาย

ในบรรดาผู้สูญหาย 200 ราย มีบางคนอยู่ใน "สถานการณ์" ที่ไม่ชัดเจน ถังเปิดเผยว่าในจำนวนนี้มี 80 ศพที่ "ไม่สามารถระบุตัวตนได้" สิ่งที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยคือร่างของพวกเขาอาจถูกเผาไหม้จนจำไม่ได้

...

เจ้าหน้าที่ระบุว่าจากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่ามีการใช้วัสดุที่เข้าข่ายไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เจ้าหน้าที่พบโฟมสไตรีนซึ่งเป็นสารไวไฟสูงถูกใช้ปิดช่องหน้าต่างลิฟต์ในทุกชั้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วภายในตัวอาคาร และลามเข้าสู่ห้องพักผ่านทางเดิน นอกจากนั้น วัสดุตาข่ายและผ้าคลุมที่ใช้ภายนอกอาคารเพื่อคลุมนั่งร้าน ก็ไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเช่นกัน ซึ่งทำให้ไฟที่ลุกไหม้จากนั่งร้านไม้ไผ่ภายนอก  ได้โหมกระหน่ำอย่างรวดเร็ว

สำนักงานดับเพลิงฮ่องกงกล่าวในการแถลงข่าวว่า เพลิงไหม้เริ่มต้นจากชั้นล่างแล้วลุกลามขึ้นไปยังชั้นบน และเสริมว่ายังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ แต่การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป และกล่าวต่อว่า เมื่ออุณหภูมิสูงสุดของไฟสูงถึง 500 องศาเซลเซียส นี่จึงเป็นสาเหตุให้ไฟจึงลุกไหม้ขึ้นอีกครั้งในบางจุดหลังจากถูกดับลงแล้ว และยืนยันว่าไฟทั้งหมดถูกดับลงแล้ว ณ  เวลาประมาณ 10:18 น. ตามเวลาท้องถิ่น 

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าตำรวจจะเริ่มเข้าไปในอาคารหวังฟุกคอร์ทในวันนี้เพื่อเริ่มรวบรวมหลักฐาน และจะใช้เวลาในการสอบสวนในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าได้ระดมรถดับเพลิง 391 คัน และรถพยาบาล 188 คัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 2,311 นายเข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 12 นายระหว่างปฏิบัติการนี้  เจ้าหน้าที่ยังระบุว่าไม่ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ และเชื่อว่าการหย่อนน้ำดับเพลิงทาสงอากาศไม่มีประสิทธิภาพในการดับไฟภายในอาคาร 

เจ้าหน้าที่ยังกล่าวอีกว่าไม่ได้ใช้โดรน และกล่าวว่ายังคงศึกษาวิธีการใช้โดรนในการปฏิบัติการประเภทนี้อยู่ เจ้าหน้าที่กล่าวว่าหน่วยดับเพลิงได้ตรวจสอบสัญญาณเตือนไฟไหม้ทั้ง 8 ตึกแล้ว แต่พบว่าระบบทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

นาย จอห์น ลี กา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบโครงการปรับปรุงอาคารในที่พักอาศัยของรัฐบาลทั้งหมดโดยทันที และยืนยันว่าจะมีการสืบสวนคดีอาชญากรรมครั้งนี้อย่างเข้มข้น

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีน ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้มีการระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อลดจำนวนผู้บาดเจ็บและสูญเสียให้น้อยที่สุด

ปัจจุบัน ไฟที่ลุกไหม้อาคารทั้ง 7 ใน 8 หลังของโครงการหวัง ฟุก คอร์ท สามารถควบคุมได้แล้ว และยังคงมีผู้พักอาศัย 56 รายที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล.


ที่มา South China Morning Post / BBC