“มงคลกิตติ์” หวนสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกรอบ  ยก “อภิสิทธิ์” เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี ปี 2569  พร้อมขอพรพระแม่ธรณีบีบมวยผมหวังได้กลับเข้าสภาฯได้เป็น สส.อีกครั้ง


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 พ.ย. 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อดีตที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และแสดงเจตนารมณ์ลงสมัคร สส.กทม. เขต หรือ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือผู้ช่วยหาเสียง ในนามพรรคประชาธิปัตย์


นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเข้ามาสมัครสมาชิกตามนโยบาย สส. ที่ดีคุณก็เป็นได้นะ ซึ่งตนก็เคยเป็น สส. เมื่อ 4 ปีก่อน โดยเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นทางออกให้กับประเทศไทย ในปี2569 คิดว่าคงไม่มีใครเหมาะกับการเป็นนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์แบบนี้ เท่ากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีประสบการณ์และเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน


เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีน้ำท่วมหาดใหญ่ที่ได้ลงไปช่วยหรือไม่  นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า  น้ำท่วมภาคใต้มีด้วยกัน 10 จังหวัด แต่ที่หนักที่สุดก็คือหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยความจริงมีการแจ้งเตือนมาแล้ว แต่กลับไปบอกว่าเป็นเฟคนิวส์ ซึ่งความจริงกรมอุตุนิยมวิทยา ภายใต้กระทรวงดีอี น่าจะมีปัญหา และภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ความจริงแล้ว ถ้าสั่งอพยพพี่น้องประชาชนตั้งแต่ก่อนที่น้ำจะเข้ามาสัก 2 วัน เชื่อว่าคนจะไม่ตายมากขนาดนี้ และในขณะนี้ทราบว่าทางส่วนราชการพยายามปกปิดตัวเลขผู้เสียชีวิต เพราะไม่ต้องการให้คนด่า นายอนุทิน และไม่ต้องการให้คนขับไล่นายกฯ แต่ความจริงแล้ว นายกฯ โดนด่าทั้งประเทศอยู่แล้ว อย่างไรก็เปิดเผยข้อมูลความเป็นจริงไปดีกว่า และทำการเยียวยาพี่น้องประชาชนให้เต็มที่ ทั้งผู้เสียชีวิต ทรัพย์สินต่าง ๆ และทางเศรษฐกิจธุรกิจที่เสียหายไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องช่วยเหลือประชาชนให้เต็มที่ 

...


นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า เมื่อนายกฯ อนุทิน หลังจากที่ช่วยเหลือประชาชนเรียบร้อยไปแล้ว ก็ควรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และไม่ต้องมาเล่นการเมืองอีก เพราะว่าตั้งแต่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี วันแรกที่ถวายสัตย์ปฏิญาณก็ยุบ (หมายความว่าอย่างไร) พอเป็นไม่ถึง 2 เดือน คนก็ตายขนาดนี้ แสดงว่าท่านเป็นอะไรสำหรับประเทศไทยนะครับ ก็ฝากพิจารณาตัวเองด้วยนะครับ อย่างน้อยขอให้มีสำนึกความรับผิดชอบ  เเจ้าหน้าที่รัฐที่บริหารบกพร่องทำให้คนตาย แต่งานนี้ นายอนุทิน เป็นคนบกพร่องเอง และยอมรับแล้วว่าเป็นคนบกพร่อง ส่วนท่านจะพิจารณาว่าท่านมีโทษอย่างไร ก็แล้วแต่สามัญสำนึกของท่าน เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้มันสร้างความเสียหายเยอะเกินไป ถ้าเตือนภัยเร็วกว่านี้ อพยพไวกว่านี้ ก็คงไม่เกิดความสูญเสียขนาดนี้


ต่อมา เวลา 14.20 น. หลังจากทำเอกสารสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เต้ มงคลกิตติ์ ได้นำพวงมาลัยไปกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผมที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยขอให้ตัวเองที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์มาประมาณ 1 ปี 5 เดือน แล้วออกไป ตอนนี้กลับเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกรอบหนึ่ง ก็ขอให้พระแม่ธรณีอำนวยพรให้ตนได้เป็น สส.กทม. แบบแบ่งเขต หรือแบบบัญชีรายชื่อในครั้งนี้ และตั้งใจว่าจะใช้บ้านหลังนี้ ซึ่งก็คือพรรคประชาธิปัตย์ในการดูแลพี่น้องประชาชน บำบัดทุกข์บำรุงสุขพี่น้องประชาชน ให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าต่อไป และพระแม่ธรณีก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจ เป็นกำลังใจให้ตนในการทำงานในอนาคต