เปิดที่มาไอเดียเจ๋ง "วิทยาลัยเทคนิคจังหวัดสุรินทร์" ประดิษฐ์เครื่องตรวจจับและทำลาย "ทุ่นระเบิด PMN-2" พร้อมคิดค้นติดตั้ง "ป้อมปืนกล" บนรถฮัมวี่ช่วยทหารแนวหน้า ลดความเสี่ยงอันตรายขณะปฏิบัติภารกิจปกป้องประเทศ
จากกรณีที่มีการเผยแพร่เรื่องราวน่าชื่นชม นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคจังหวัดสุรินทร์ ประดิษฐ์และคิดค้นเครื่องทำลายและตรวจสอบทุ่นระเบิด PMN-2 เตรียมส่งต่อไปให้กับทหารแนวหน้าใช้งานในการลาดตระเวนพื้นที่ชายแดน โดยมีคอนเซ็ป "อุปกรณ์หนึ่งชิ้นเท่ากับหนึ่งชีวิตของทหาร"
ล่าสุดวันที่ 21 พ.ย. 68 ทีมข่าวไทยรัฐทีวี ได้ลงพื้นที่ไปยังแผนกช่างเชื่อม วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ พบบรรยากาศในห้องเรียน นักศึกษาได้มีการช่วยกันสร้างอุปกรณ์หลายอย่างขึ้นมา เพื่อสนับสนุนทหารที่อยู่แนวหน้า พร้อมสาธิตวิธีการใช้เครื่องทำลายและตรวจสอบทุ่นระเบิด PMN-2
นายการุณ มาชอบ หัวหน้าแผนกช่างเชื่อม วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ เปิดเผยว่า ที่มาของการคิดค้นเครื่องตรวจจับและทำลายทุ่นระเบิดมาจากวิทยาลัยได้รับการประสานมาจากทหารที่อยู่แนวหน้าในพื้นที่ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ว่าการลาดตระเวนในพื้นที่ค่อนข้างลำบาก มีทหารเหยียบทุ่นระเบิดจนเสียขามาแล้ว จึงมีการประสานเข้ามาเพื่อให้ทางวิทยาลัยจัดทำอุปกรณ์ในการลดความเสี่ยง
...
จากนั้นทางอาจารย์และนักศึกษาก็ได้มีการคิดค้นอุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นมา โดยใช้ในการคิดค้นและสร้างขึ้นมานานกว่า 1 เดือน โดยต้องมีการพูดคุยกับทหารที่ทำงานอยู่แนวหน้า ว่ารูปแบบของทุนระเบิดเป็นแบบไหน ฝังลึกอยู่ในดินกี่เซนติเมตร ซึ่งข้อมูลที่ได้ทุนระเบิดพวกนี้จะถูกฝังอยู่ในดินลึกประมาณ 10 เซนติเมตรด้วยกัน จนวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์สามารถสร้างอุปกรณ์ตรวจจับและทำลายทุ่นระเบิดตัวนี้ขึ้นมา ก่อนจะมีการสาธิตให้ทหารดู ซึ่งหลังจากนี้จะทำการส่งมอบให้กับทหารแนวหน้าได้ไปใช้งานจริง
สำหรับคอนเซ็ปของการคิดค้นอุปกรณ์ในการตรวจจับและทำลายทุ่นระเบิดชิ้นนี้ เพราะได้ทราบข่าวมาว่าทหารไทยเสียขาไปแล้ว 7 ขา อุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยรักษาขาและชีวิตของทหารได้ โดยเครื่องตรวจจับและทำลายทุ่นระเบิด หากตรวจไปเจอระเบิดเหล็กก็จะเสียหาย สามารถใช้งานได้เพียงแค่ครั้งเดียว ก็เท่ากับว่าอุปกรณ์ 1 ชิ้นเท่ากับขาของทหาร 1 ขา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการพัฒนาเสริมสร้างอุปกรณ์ให้แข็งแกร่ง และสามารถควบคุมจากรีโมทได้ในระยะไกล เพื่อลดความเสี่ยงของทหารที่ลาดตระเวนอยู่แนวหน้า
นอกจากเครื่องตรวจจับและทำลายทุ่นระเบิด ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ได้จัดทำขึ้น นั่นก็คือป้อมปืนกลบนรถฮัมวี่ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่นำแผ่นเหล็กมาประกบติดกัน แล้วทำเป็นเหมือนโล่กำบังไว้ให้กับทหารที่ประจำปืนกลอยู่บนรถฮัมวี่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อชีวิต เนื่องจากเราจะเห็นภาพว่าปืนกลบนรถฮัมวี่ไม่ได้มีเกราะป้องกันอะไรเลย ทหารที่ประจำอยู่ตรงนั้นอันตรายมากหากเกิดการปะทะกันขึ้นมาอีกครั้ง
ด้านนายมานิต แต้มแก้ว รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ บอกกับทีมข่าวว่า ที่มาของสิ่งประดิษฐ์ป้อมปืนกลบนรถฮัมวี่นี้ ก็มาจากการได้รับประสานงานมาจากทหารแนวหน้าที่ปราสาทตาควายเช่นกัน เนื่องจากการปะทะครั้งที่ผ่านมา ทหารที่ประจำปืนกลบนรถฮัมวี่ เวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ยิงอัดใส่ฝั่งตรงข้าม ไม่มีอะไรป้องกันเลย ทางทหารจึงได้เข้าไปติดต่อให้ร้านอีกหนึ่งทำ แต่ปรากฏว่ามีค่าใช้จ่ายชิ้นละ 13,000 บาท ก่อนจะประสานมาที่วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์
...
ทางวิทยาลัยจึงได้มีการคิดค้นป้อมปืนกลให้เพื่อใช้ติดตั้งบนรถฮัมวี่ ซึ่งก่อนที่จะนำมาใช้ติดตั้งจริง ก็ได้มีการทดสอบกับปืนอาวุธสงครามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสามารถป้องกันได้จริงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับระยะที่ฝ่ายตรงข้ามยิงเข้ามา ซึ่งในตอนแรกทางวิทยาลัยเองก็หาแผ่นเหล็กมาทำไม่ได้ เพราะแผ่นเหล็กที่มีไม่สามารถป้องกันอาวุธสงครามได้ ก่อนจะประสานไปที่มูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้ จึงทำให้ได้แผ่นเหล็กที่มีประสิทธิภาพมาสร้างป้อมปืนกลในครั้งนี้
ซึ่งในตอนนี้ป้อมปืนกลบนรถฮัมวี่ ได้ติดตั้งไปทั้งสิ้น 9 คันแล้ว ในตอนนี้อยู่ระหว่างการประดิษฐ์ขึ้นอีกเพื่อติดตั้งให้กับทหารอีกจำนวน 9 คัน ที่ยังรออยู่ ซึ่งทุกชิ้นวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์จัดให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการสนับสนุน และช่วยเหลือทหารแนวหน้าในฐานะประชาชน โดยทั้งนักศึกษา และอาจารย์ต่างก็ภาคภูมิใจสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ที่จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงให้กับทหารได้
อย่างไรก็ตามนอกจากเครื่องตรวจจับและทำลายทุ่นระเบิด รวมถึงป้อมปืนกลบนรถฮัมวี่ หลังจากนี้ทางวิทยาลัยก็จะมีโปรเจคเพิ่มเติมอีก หากได้รับแผ่นเหล็กที่มีคุณภาพสูงเข้ามาเพิ่มเติม ก็จะประดิษฐ์เป็นแผ่นเหล็กเสื้อเกราะกันกระสุน ส่งให้กับทหารที่อยู่แนวหน้าด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ส่งให้กับทหาร ทุกอย่างไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น
