“นฤมล” รมว.ศึกษาธิการ ร่วมประชุมรัฐมนตรีศึกษาทั่วโลก ที่กรุงบราติสลาวา สาธารณรัฐสโลวัก ถกอนาคต AI ในการศึกษา พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ยกระดับทักษะคนไทย สู่ยุคปัญญาประดิษฐ์
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีศึกษาว่าด้วยอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ในการศึกษา (Meeting of Ministers of Education on the Future of AI in Education) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุม OECD Global Forum on the Future of Education and Skills ณ Bratislava Castle กรุงบราติสลาวา สาธารณรัฐสโลวัก โดยมีผู้นำด้านการศึกษาจากหลายประเทศร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและกำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาในยุคปัญญาประดิษฐ์
ศ.ดร.นฤมล ร่วมอภิปราย 2 วาระสำคัญ โดยในการประชุมหัวข้อ Learning with AI – the “HOW” ศ.ดร.นฤมล แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับบทบาทของการศึกษาในยุคที่ AI เข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชน ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้นำ AI มาใช้เพื่อขยายโอกาสในการเรียนรู้ ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการปลูกฝังจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างรับผิดชอบ พร้อมย้ำถึงความร่วมมือกับ OECD ทั้งด้านการวิจัย การพัฒนาแนวปฏิบัติที่ดี และการจัดทำกรอบกำกับดูแลการใช้ AI ในโรงเรียน รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือประเมินผลด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

...

สำหรับการประชุมโต๊ะกลมในหัวข้อ Learning for the World with AI – the “WHAT” ศ.ดร.นฤมล กล่าวถึงโอกาสของประเทศไทยในการใช้ AI เพื่อยกระดับระบบการศึกษา โดยสอดคล้องกับแผนแม่บท AI ของประเทศที่ตั้งเป้าสร้างพลเมืองที่มีทักษะด้าน AI จำนวน 600,000 คนภายในปี 2570 พร้อมทั้งพัฒนาผู้ใช้งาน AI จำนวน 10 ล้านคน ผู้เชี่ยวชาญ AI 90,000 คน และนักพัฒนา AI 50,000 คน ไทยมีความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ผ่านบันทึกความเข้าใจโครงการขับเคลื่อนการสอนปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ที่เหมาะกับผู้เรียนแต่ละระดับ และสนับสนุนให้สถานศึกษาใช้ AI เพื่อติดตามและส่งเสริมพัฒนาการผู้เรียนอย่างเป็นระบบ อีกทั้งชูการใช้ AI เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้แบบรายบุคคล (Personalized Learning) และเพิ่มการเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ไทยจะยังมีความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล แต่ยังมีหน่วยงานของรัฐ เช่น ศูนย์ดิจิทัลชุมชน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ร่วมผลักดันให้กลุ่มผู้ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะการทำงานด้วย AI ได้มากขึ้น
“การพัฒนาการศึกษาโดยมี AI เป็นเครื่องมือสำคัญถือเป็นภารกิจที่กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งสนับสนุนให้ครูและนักเรียนพัฒนาทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อนำไปใช้ในการเรียนรู้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลกยุค AI ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศในระยะยาว”

