“พัฒนา” ข้องใจ รมว.มหาดไทย แทรกแซงการของบประมาณท้องถิ่น ด้าน “ศึกษิษฏ์” ตั้งข้อสังเกต ย้ายข้าราชการรัวๆ เกี่ยวกับคดีเขากระโดงหรือไม่ ย้อนนายกฯ ถ้าบริหารถูกต้องอย่าหนีการตรวจสอบ เพื่อไทยไม่เคยบังคับใครร่วมอภิปราย


วันที่ 22 พ.ย. 2568 ที่พรรคเพื่อไทย นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตต่อพฤติการบางประการของรมว.มหาดไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการงบประมาณภาครัฐ อาจเข้าข่ายบทบัญญัติมาตรา 29 แห่งวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 ซึ่งกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น(สถ.) ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในการของบประมาณอุดหนุนเฉพาะกิจปี 2570 ให้จัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัดโดยผ่าน สถ. อาจจะขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ในการทำคำขอดังกล่าว ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจให้คณะกรรมการชุดนี้มีการตัดหรือเพิ่ม เพราะถ้าตัดหรือเพิ่มจะถือว่าเป็นการแทรกแซงหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และรมว.มหาดไทย ก็เป็นนายกฯ และประธานกรรมการกระจายอำนาจ การที่ท่านบริหารราชการแผ่นดินอย่างนี้ ตนมองเป็นเจตนาอย่างอื่นไม่ได้ ท่านไม่รักท้องถิ่น และไม่เชื่อในการกระจายอำนาจ ท่านถึงได้ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัด และให้ สถ.เข้ามาแทรกแซงในการทำคำของบประมาณ ซึ่งทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเขาไม่ทำกัน

...


พท. ถ้าย้ายขรก.รัวๆ เกี่ยวข้องกับคดีเขากระโดงหรือไม่

ด้านนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าจากการติดตามการทำงานของรัฐบาล ในการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง หลังจากการเข้ามาทำงานใน 1 เดือนของรัฐบาล มีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงไปแล้ว 98 ตำแหน่ง และถึงขณะนี้ ระยะเวลา 2 เดือนเศษ มีการโยกย้ายไปแล้ว 122 ตำแหน่ง และคิดว่าสิ้นเดือนธ.ค. น่าจะทะลุ 300 ตำแหน่ง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย มีการโยกย้ายไปแล้ว 49 ตำแหน่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 13 ตำแหน่ง สำนักนายกรัฐมนตรี 12 ตำแหน่ง ตนยังตั้งข้อสังเกตว่าหลายตำแหน่งเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ เช่น เขากระโดง ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ในสังคม และตำแหน่งสำคัญอย่างเลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีการปรับเปลี่ยน ทั้งที่ประเทศไทยจมน้ำอยู่เป็นล้านไร่ หรืออธิบดีกรมที่ดินที่มีการแต่งตั้งเมื่อ 12 พ.ย. แต่หลังจากนั้น 6 วัน มีการโยกย้ายข้าราชการที่ดิน ในจังหวัดบุรีรัมย์ทันที จึงอาจตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า มีข้อเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหรือไม่ พรรคเพื่อไทยจึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันจับตามองถึงการแต่งตั้งโยกย้ายเหล่านี้ แต่งตั้งตามกฎหมายและระเบียบหรือไม่ หรือเป็นเพียงปลายภูเขาน้ำแข็ง เพราะเป็นข้าราชการระดับสูง ที่ต้องมีการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และตั้งคำถามว่าข้าราชการที่ต่ำลงไปจะมีอีกจำนวนเท่าไหร่ หรือการแต่งตั้งโยกย้ายในระดับนี้เป็นการแต่งตั้งเพื่อหาผลประโยชน์ หรืออำนวยความสะดวกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่

นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่าการแต่งตั้งโยกย้ายและการจัดการงบประมาณภาครัฐ มีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างชัดเจน โดยทางพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ประชาชน ช่วยกันจับตามองว่าการแต่งตั้งโยกย้าย และการเพิ่มขั้นตอนการของบประมาณ เป็นการปูทางอำนวยความสะดวกในการเลือกตั้งหรือไม่ ที่มีการพูดว่าพร้อมแล้วที่จะยุบสภา เพราะเตรียม 2 เรื่องดังกล่าวไว้แล้วใช่หรือไม่ และหากนายกฯยืนยันว่าที่ผ่านมา บริหารราชการแผ่นดินได้อย่างถูกต้อง ก็อย่าหนีการตรวจสอบ ที่บอกว่าเพิ่งเข้ามาได้เดี๋ยวเดียว จะทำอะไรผิดได้ ทางพรรคเพื่อไทยเราเห็นต่าง เพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว เป็นความเสียหายจำนวนมากด้วย ซึ่งการตรวจสอบรัฐบาลเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทยไม่เคยเรียกร้องหรือบังคับให้ใครมาร่วมอภิปรายด้วย ทุกพรรคมีสิทธิ์จะโหวตอย่างไรก็ได้ ถ้านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสามารถชี้แจงได้ ท่านก็น่าจะได้รับการไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อ ท่านอย่าหนีความรับผิดชอบ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งหลายด้าน เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครไปแล้ว กว่า 250 เขต และจะมีการทยอยเปิดตัวเรื่อยๆ เป็นการแสดงได้ชัดว่าพรรคเพื่อไทย ยังเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความเข้มแข็ง และมีบุคลากรจำนวนมาก ต้องการเข้ามาร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตามในเร็วๆนี้ จะมีงานเปิดตัวครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งรอบนี้จะจัดอย่างเต็มองค์คาพยพ