พม. เตรียมปรับเกณฑ์ประเมินความพิการ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมบูรณาการ 7 องค์กรคนพิการขยายการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานการประชุมบูรณาการความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ” ร่วมกับ 7 องค์กรคนพิการทุกประเภทความพิการ ประกอบด้วย 1) สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย 2) สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย 3) สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย 4) สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย 5) สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย 6) สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) และ 7) สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย โดยมี นางสาวสนธยา บุณยภูษิต อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (อธิบดี พก.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายกันตพงศ์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) หารือกับผู้นำองค์กรคนพิการทั้ง 7 ประเภทความพิการ ที่จะเดินทางเข้าร่วมถวายความอาลัยและถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา นายอัครา พรหมเผ่า รมว.พม. ได้ให้นโยบาย “พม. ใกล้คุณ” สำหรับขับเคลื่อนภารกิจกระทรวง พม. ทั้งมิติของการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ รวมถึงการจัดการหนี้สิน ที่เป็นเรื่องเศรษฐกิจในครัวเรือน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรที่ทำงานด้านสังคมให้มีความเข้มแข็ง มีทักษะความรู้เพิ่มเติม และทันสมัยอยู่เสมอ
...
ตาบอดข้างเดียวมีสิทธิได้รับสวัสดิการ
นายกันตพงศ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องของการปรับหลักเกณฑ์การประเมินความพิการที่นอกจากการใช้เกณฑ์ประเมินทางการแพทย์แล้ว ยังต้องมีเกณฑ์การประเมินทางมิติสังคมเข้ามาประกอบการพิจารณาด้วย กรณีคนพิการที่มีสภาพร่างกายที่ไม่ครบสมบูรณ์แบบคนทั่วไป อาทิ คนที่ตาบอดข้างเดียว หรือมีลักษณะอวัยวะร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งที่ไม่ครบ 32 ประการ เพราะฉะนั้น เมื่อออกเกณฑ์การประเมินความพิการใหม่ ย่อมทำให้มีการได้รับสิทธิสวัสดิการคนพิการมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความสมัครใจในการเข้ามาทำบัตรประจำตัวคนพิการหรือการใช้สิทธิสวัสดิการคนพิการกับกรม พก. ซึ่งตนได้ลงนามในร่างประกาศกระทรวง พม. เรื่องนี้ และได้เสนอ รมว.พม. พิจารณาลงนามเร็วๆ นี้ จากนั้นจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป และจะเป็นของขวัญปีใหม่ของกระทรวง พม.
กำหนดเกณฑ์มอบรถเข็น
นายกันตพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องการจัดหากายอุปกรณ์หรือเครื่องช่วยความพิการ อาทิ รถโยก รถเข็นนั่ง (Wheelchair) ไม้เท้าขาว และเครื่องช่วยความพิการอื่นๆ เพื่อให้คนพิการได้ออกมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างสะดวกและเท่าเทียม ในเบื้องต้นได้มีการสำรวจข้อมูลความต้องการกายอุปกรณ์ (รถเข็นนั่ง) โดยมีคนพิการแจ้งความต้องการกายอุปกรณ์แล้วกว่า 16,000 คน และเตรียมกระบวนการส่งมอบกายอุปกรณ์ ในระยะที่ 1 เป้าหมาย 3,000 คน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลความต้องการของคนพิการเพิ่มเติม โดยสมาคมและองค์กรด้านคนพิการ สามารถเป็นกระบอกเสียงในการสื่อสารช่วยเหลือคนพิการให้ได้รับกายอุปกรณ์ตามความต้องการจำเป็นพิเศษเฉพาะบุคคล ผ่านการติดต่อกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (สนง.พมจ.) ทั่วประเทศ โดยศูนย์บริการคนพิการจังหวัด ซึ่งมีกำหนด Kick-off เปิดตัวในวันคนพิการสากล ประจำปี 2568 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ของกระทรวง พม. และต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์ แนวทางทางการส่งมอบให้รัดกุม โปร่งใสตรวจสอบได้

ผลักดันเพิ่มเบี้ยพิการ 1 พันถ้วนหน้า
นอกจากนี้ ยังผลักดันในเรื่องการปรับเกณฑ์การซ่อมบ้านคนพิการ, การกู้ยืมเงินเพื่อการประกอบอาชีพ และโครงการจัดหาครอบครัวอุปการะให้แก่คนพิการที่ไม่มีผู้ดูแล โดยใช้กลไกในพื้นที่สำหรับการดูแลเพื่อให้พี่น้องคนพิการได้เข้าถึงสิทธิมากขึ้น รวมถึงเรื่องการปรับเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการ 1,000 บาท ถ้วนหน้า ซึ่งปัจจุบันมีคนพิการที่รับสวัสดิการเบี้ยความพิการกว่า 2.2 ล้านคน โดยกระทรวง พม. มีการผลักดันสวัสดิการเบี้ยความพิการถ้วนหน้า ด้วย 2 แนวทางสำคัญ คือ 1. ระยะเร่งด่วน ขอรับการจัดสรรงบกลางจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 และ 2. ผลักดันการขอรับการจัดสรรงบประมาณตามกระบวนการปกติ โดยเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบในหลักการปรับเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการ 1,000 บาท ถ้วนหน้า และแจ้งมติ ครม. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
