ตำรวจแถลงปฏิบัติการรวบแอดมินกลุ่มลับขายคลิปอนาจารเด็ก พบหลักฐานกว่า 2,000 ไฟล์ สารภาพทำรายได้เฉลี่ยประมาณ 40,000-60,000 บาทต่อเดือน


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 พ.ย. 68 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ท.นราเดข ทิพย์รักษ์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ช่วยราชการ บช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.คมกฤช สุขไทย ผบก.สอท.3 พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ตอท. ร่วมแถลงปฏิบัติการรวบแอดมินกลุ่มลับขายคลิปอนาจารเด็ก พบหลักฐานกว่า 2,000 ไฟล์


พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ตรวจพบมีการลักลอบเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กในกลุ่มไลน์ ชื่อบัญชี “กลุ่มลับคลิปเด็ด VIP” ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้เปิดให้คนที่สนใจสมัครสมาชิก ด้วยการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารจำนวน 300 บาท เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบในกลุ่มไลน์ดังกล่าว พบว่ามีการเผยคลิปและภาพลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก

...

โดย พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พร้อมชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวน กระทั่งรู้ตัวผู้ดูแลกลุ่มลับดังกล่าวคือ นายพงศกร อายุ 33 ปี ทำหน้าที่โฆษณาชักชวนสมาชิก และรับผลประโยชน์จากการเก็บเงินค่าสมาชิก พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมาย

พล.ต.ต.ทรงกลด กล่าวอีกว่า ต่อมา พ.ต.ท.พิชิต เอียงสา รอง ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 659/2568 ลงวันที่ 18 พ.ย.68 ค้นบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เข้าจับกุมนายพงศกร พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์พบสื่อลามกอนาจารเด็กในเครื่องทั้งรูปแบบภาพถ่ายและวิดีโอคลิปกว่า 2,000 ไฟล์ อีกทั้งพบกลุ่มลับที่นายพงศกรเป็นเจ้าของ จำนวน 14 กลุ่ม มีสมาชิกรวม จำนวน 6,288 บัญชี และยังพบกลุ่มลับที่ใช้เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กรวมจำนวน 197 กลุ่ม มีสมาชิกรวมกันกว่า 60,000 บัญชี

เบื้องต้นสอบสวน นายพงศกร ยอมรับว่า ทำกลุ่มลับมานานกว่า 2 ปี โดยเริ่มต้นจากการร่วมโปรโมทกลุ่มของผู้อื่น ก่อนมาเปิดกลุ่มเองจนมีทั้งหมด 14 กลุ่ม สามารถทำรายได้เฉลี่ยประมาณ 40,000-60,000 บาทต่อเดือน

โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก”, “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กและส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก” และ “เพื่อประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน”