หลังเกิดฝนตกหนัก เกิดน้ำป่าทะลักท่วมในหลายพื้นที่ของปัตตานี โดยที่ รพ.สายบุรี น้ำทะลักท่วมชั้นล่าง ต้องอพยพผู้ป่วยฟอกไตไป รพ.ปัตตานี เป็นการชั่วคราว
วันที่ 21 พ.ย. 68 หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าในพื้นที่ จ.ปัตตานี จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องช่วงวันที่ 17-23 พ.ย. 68 โดยตั้งแต่คืนวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้หลายพื้นที่ในจังหวัดปัตตานีมีปริมาณน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากในหลายอำเภอ ประกอบด้วย อ.ยะรัง อ.มายอ อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี และ อ.เมือง บางพื้นที่เกิดน้ำป่าจากภูเขาไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานที่ราชการ และถนน ทำให้บางเส้นทางรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้
โดยที่ บ้านปาลัส อ.มายอ จ.ปัตตานี ฝนที่ตกหนักตลอด 3 วันที่ผ่านมาโดยเฉพาะวันนี้ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากภูเขาในตัวอำเภอทะลักเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ตามแนวทางน้ำ ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงไม่ทัน ได้รับความเดือดร้อน
ที่ อ.สายบุรี ซึ่งติดกับทะเลและติดกับแม่น้ำสายบุรี ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่ภายในเมืองสายบุรี บริเวณถนนท่าเสด็จ ต.ตะลุบัน ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าตัวอำเภอสายบุรี มีน้ำท่วมขังสูงจนถนนถูกปิด รถทุกชนิดสัญจรไปมาไม่ได้ โดยเฉพาะพื้นที่หน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ต.ตะลุบัน เกิดน้ำท่วมสูง การสัญจรผ่านไปมาเป็นไปด้วยความลำบาก รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้
ขณะที่ภายในโรงพยาบาลสายบุรีได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยมวลน้ำป่าจากภูเขาด้านหลังโรงพยาบาลได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ของโรงพยาบาล เข้าท่วมภายในตึกชั้นล่าง ซึ่งเป็นตึกผู้ป่วยและบริการฟอกไต ทำให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องอพยพผู้ป่วยโรคไต และผู้มาใช้บริการฟอกไต ส่งไปรักษาตัวและฟอกไตที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมแจ้งประกาศให้ผู้ป่วยที่กำลังจะเดินทางมาฟอกไตที่โรงพยาบาลในช่วงนี้ เดินทางไปรับบริการฟอกไตที่โรงพยาบาลปัตตานีแทนเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โรงพยาบาลจะคลี่คลาย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
...
อย่างไรก็ตาม สำหรับเคสที่มีผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินทางไปฟอกไตที่โรงพยาบาลปัตตานีได้ ทางโรงพยาบาลสายบุรีแจ้งให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ มาติดต่อที่หน่วยฟอกไตของโรงพยาบาลสายบุรีทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถประเมินสถานการณ์ และจัดการส่งต่อหรือการรักษาในแผนฉุกเฉินต่อไป ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการ เพื่อควบคุมสถานการณ์และจัดเตรียมแผนสำรองในการรักษาพยาบาลในพื้นที่ต่อไป