เซอร์ ทอม สต็อปพาร์ด นักเขียนบทละครผู้ทรงเกียรติของสหราชอาณาจักร ผู้อยู่ในวงการมานานกว่า 60 ปี และเคยคว้ารางวัลมากมายรวมถึงรางวัลออสการ์ เสียชีวิตแล้วในวัย 88 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เซอร์ ทอม สต็อปพาร์ด หนึ่งในนักเขียนบทละครชื่อดังที่สุดของสหราชอาณาจักร ผู้ได้รับรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำจากบทภาพยนตร์เรื่อง “Shakespeare In Love” เสียชีวิตอย่างสงบ ที่บ้านในเมืองดอร์เซ็ต โดยมีครอบครัวอยู่รายล้อม ขณะมีอายุได้ 88 ปี
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยอย่างยิ่งต่อการจากไปของ “หนึ่งในนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา”
ทั้งสองพระองค์ตรัสในแถลงการณ์ว่า “เขาเป็นมิตรที่รักผู้ใช้พรสวรรค์ของตนอย่างอ่อนน้อม เขาสามารถและเคยเขียนงานเกี่ยวกับทุกหัวข้อ ทั้งท้าทาย สร้างความสะเทือนใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ซึ่งผลงานเหล่านั้นถือกำเนิดขึ้นจากเรื่องราวส่วนตัวของเขาเอง”
ในแถลงการณ์ United Agents ซึ่งเป็นตัวแทนของ เซอร์ สต็อปพาร์ด ระบุว่า “เขาจะถูกจดจำผ่านผลงานของเขา สำหรับความยอดเยี่ยมและความเป็นมนุษย์ รวมถึงสติปัญญาและไหวพริบ, ความไม่เคารพบูชาต่อสิ่งที่เป็นอยู่, ความมีน้ำใจ และความรักอันลึกซึ้งต่อภาษาอังกฤษของท่าน”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับทอม และได้รู้จักกับเขา” แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ ผลงานของ เซอร์ สต็อปพาร์ด ตราตรึงใจผู้ชมมานานกว่า 6 ทศวรรษด้วยผลงานที่พาผู้ชมไปสำรวจประเด็นทางปรัชญาและการเมือง นอกจากนั้น เขายังเขียนบทภาพยนตร์, ละครโทรทัศน์และวิทยุอีกหลายเรื่อง และดัดแปลงนวนิยายเรื่อง “Anna Karenina” ของ ลีโอ ตอลสตอย เป็นภาพยนตร์ในปี 2555 ที่นำแสดงโดย เคียรา ไนต์ลีย์ กับ จูด ลอว์
...
ในปี 2563 เซอร์ สต็อปพาร์ด เปิดตัวผลงานกึ่งอัตชีวประวัติเรื่องใหม่ชื่อ “Leopoldstadt” ซึ่งมีฉากอยู่ในย่านชาวยิวของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล “โอลิวิเยร์” (Olivier) สาขาบทละครใหม่ยอดเยี่ยม และคว้ารางวัล “โทนี อวอร์ดส์” (Tony Awards) ถึง 4 รางวัล
ทั้งนี้ เซอร์ สต็อปพาร์ด เกิดมาในชื่อ โทมัส สเตราสเลอร์ ที่ประเทศเชโกสโลวะเกีย ก่อนจะลี้ภัยออกจากบ้านเกิดในช่วงที่นาซียึดครองและมาอาศัยอยู่ในอังกฤษ จากนั้นเขาก็ได้รู้จากญาติว่า ปู่ย่าตายายทั้ง 4 คนของเขาเป็นชาวยิว และทั้งหมดเสียชีวิตในค่ายกักกันของนาซี
“ผมรู้สึกโชคดีอย่างเหลือเชื่อที่ไม่ต้องเอาชีวิตรอดหรือตาย มันเป็นส่วนที่โดดเด่นของสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของชีวิต” เซอร์ สต็อปพาร์ด บอกกับนิตยสาร “Talk” ของสหรัฐฯ ในปี 2542 ขณะที่รำลึกถึงการกลับไปเยือนเมืองซลิน (Zlin) บ้านเกิดของเขา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสาธารณรัฐเช็ก
เซอร์ สต็อปพาร์ด เคยทำงานเป็นนักข่าวในบริสตอลในปี 2497 ก่อนจะมาเป็นนักวิจารณ์ละครเวที และเริ่มเขียนบทละครสำหรับวิทยุและโทรทัศน์
“ผมต้องการเป็นนักข่าวที่ยิ่งใหญ่” เซอร์ สต็อปพาร์ด กล่าว “ความทะเยอทะยานแรกของผมคือการนอนอยู่บนพื้นของสนามบินในแอฟริกา ขณะที่กระสุนปืนกลพุ่งผ่านเครื่องพิมพ์ดีดของผมไป แต่ผมกลับไม่มีประโยชน์มากนักในฐานะนักข่าว ผมรู้สึกว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามกับผู้คน”
“ผมมักคิดว่าพวกเขาจะขว้างกาน้ำชาใส่ผม หรือไม่ก็โทรเรียกตำรวจ”
อาชีพนักเขียนบทละครของเซอร์ สต็อปพาร์ด ไม่ได้เริ่มต้นอย่างจริงจังจนกระทั่งทศวรรษ 1960 เมื่อบทละครเรื่อง “Rosencrantz and Guildenstern are Dead” เปิดตัวครั้งแรกที่เทศกาล Edinburgh Fringe Festival ต่อมาได้ถูกนำไปแสดงที่ National Theatre และบรอดเวย์
เซอร์ สต็อปพาร์ด ได้รับเกียรติและรางวัลมากมายตลอดอาชีพการงาน รวมถึงการได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์อัศวินจากสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ผู้ล่วงลับ สำหรับการทำคุณประโยชน์ด้านวรรณกรรมในปี 2540
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc