รมว.ยุติธรรมลั่น “รับไม่ได้” สั่งดีเอสไอลุยตรวจสอบคดีนางแบบจีนบุกเรือนจำ พบเจ้าหน้าที่เอี่ยว 6–7 ราย กล้องวงจรปิดถูกลบไปแล้วแต่กู้คืนได้บางส่วน สั่งจัดระเบียบนักโทษ VIP ทุกเรือนจำ
วันที่ 21 พ.ย. 2568 วันนี้ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการเวทีสาธารณะ “เห็นคุณค่าทุกชีวิต เดินหน้ากับร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. ….” หลังพิธีเปิดงาน ผู้สื่อข่าวสอบถามรัฐมนตรีฯ ถึงกรณีกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งย้ายผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภายหลังพบพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ให้ผู้ต้องขังชาวจีน พล.ต.ท.รุทธพลระบุว่า ตั้งแต่รับราชการจนเกษียณไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน และยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง เพราะเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศ พร้อมเชื่อว่าประชาชนก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้เช่นกัน
ยันดำเนินคดีอาญาและวินัยทุกคน
รมว.ยุติธรรม กล่าวด้วยว่า ตนได้รับรายงานเบื้องต้นด้วยวาจาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะสั่งตรวจค้นและโยกย้ายผู้บัญชาการเรือนจำทันที โดยรายละเอียดที่ได้รับรายงานก็เป็นไปตามที่เป็นข่าว พร้อมสั่งการให้อธิบดีและคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจัดทำรายงานสรุป เพื่อนำเสนอในการประชุมช่วงบ่ายวันนี้ที่กระทรวงยุติธรรม ยืนยันกระทรวงจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ทั้งพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง พร้อมเร่งรัดดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัยกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่มีปล่อยผ่าน และหากจำเป็นจะตรวจสอบย้อนหลังการปฏิบัติงานของผู้บัญชาการเรือนจำคนดังกล่าวอย่างครอบคลุม
ปรนเปรอกามนักโทษ เรื่องจริง
...
ในส่วนของข้อมูลที่ปรากฏในข่าว ทั้งเรื่อง “ห้องใต้บันได”, ถุงยางอนามัย และการนำหญิงสาวเข้าไปให้บริการผู้ต้องขังชาวจีน รัฐมนตรีระบุว่า จากรายงานเบื้องต้นเป็นเรื่องจริง แต่ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อแก้ไขในส่วนที่จำเป็น และจะใช้โอกาสนี้ปรับปรุงระบบเรือนจำของไทยทั้งระบบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ
สอบสวนนางแบบจีน
ต่อมา พล.ต.ท.รุทธพล เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงยุติธรรม รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนางแบบหญิงต่างชาติเข้าไปในเขตราชทัณฑ์ โดยระบุว่าคณะกรรมการได้สอบสวนไปแล้วบางส่วน ทั้งในประเด็นการเข้าพื้นที่ของนางแบบ และบทบาทของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมสืบสวน พร้อมประสาน ปปง. ตรวจเส้นทางการเงิน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมด ยืนยันต้องให้ความกระจ่างในทุกมิติ โดยในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ย.) เวลา 09.00 น. จะลงพื้นที่ตรวจสอบเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ด้วยตนเอง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กว่า 300 คน โดยจะคัดกรองสอบผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
จีนเทาในเรือนจำกรุงเทพ 200 คน
ส่วนผู้ต้องขังกลุ่ม “จีนเทา” ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีราว 200 คน โดยพบว่ามี 2 รายเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ รู้ตัวทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูล อยู่ระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาล สำหรับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำพบว่ามีผู้เกี่ยวข้อง 6–7 คน ตั้งแต่ด่านประตูจนถึงจุดที่เกิดเหตุ โดยจุดเกิดเหตุไม่ใช่ห้องทำงานผู้บัญชาการเรือนจำ แต่เป็นห้องของผู้คุมที่ถูกดัดแปลงคล้ายห้องรับรอง ส่วนห้อง ผบ. อยู่ชั้นบน ซึ่งพรุ่งนี้จะเข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจน
ย้ายผู้ต้องขังวีไอพีแล้ว
พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีของนางแบบสาวชาวจีน พบว่าเดินทางเข้ามา โดยใช้เส้นทางปกติ เป็นส่วนอาคารของเจ้าหน้าที่ โดยเหตุเกิดช่วงกลางวัน และการสอบปากคำนางแบบชาวจีนทั้งสองคนแล้ว เบื้องต้นสอบปากคำและตรวจสอบพาสปอร์ต โดยให้การแค่ว่า มาพบเจ้าหน้าที่ที่อยู่จุดนั้น แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเต็มใจมา รวมถึงเรื่องค่าตอบแทนของนางแบบชาวจีนทั้งสองคน ทั้งคู่ยังปฏิเสธอยู่ ส่วนผู้ต้องขังชาวจีนทั้งสองคนถูกย้ายเรือนจำไปแล้ว เป็นเรือนจำใกล้เคียงแต่ขอไม่เปิดเผย
กล้องวงจรปิดถูกลบ
ด้านกล้องวงจรปิดพบว่าถูกลบในวันเกิดเหตุ แต่สามารถกู้คืนบางส่วน พบภาพผู้ต้องขังเดินในพื้นที่ต้องห้าม พร้อมมีพยานหลักฐานอื่นประกอบ เมื่อถามถึงมาตรการจัดระเบียบนักโทษวีไอพี รมว.ยุติธรรมระบุว่า ได้สั่งให้ตรวจทั้งระบบทุกเรือนจำ เพราะหากปล่อยให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก จะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อหน่วยงาน