ระยะคิดและระยะเบรก กลายเป็นตัวแปรที่มีความผกผัน แล้วแต่ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ระยะคิดและระยะเบรกเพิ่มขึ้นหรือลดลง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่ใช้ สภาพยาง สภาพผิวถนน และสภาพอากาศ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงระยะคิดและระยะเบรกใหม่ด้วยประสบการณ์ของการขับ หรือคิดคำนึงด้วยมุมมองของการขับขี่ที่อิงความปลอดภัยเป็นหลักจะมีผลโดยตรงต่อการหยุดรถของคุณได้ทันท่วงที สมาธิที่หลุดหายระหว่างการขับ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยาเสพติด ทำให้เบรกไม่ทันนั้นเกิดขึ้นเยอะมาก ความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อนใช้รถยนต์ย่อมมีผลต่อการคิดและการตัดสินใจ

คนที่มีสมาธิในการขับจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าย่อมตัดสินใจได้เร็วกว่าคนที่ขาดสมาธิหรือเกิดอาการอ่อนเพลียเหน็ดเหนื่อย เมา เสพยาเสพติด หรือมีอารมณ์ขุ่นมัวในขณะขับรถ  รวมไปถึงสิ่งเร้าต่างๆ สามารถรบกวนสมาธิได้ตลอดเวลา ควรทำให้ร่างกายมีความปกติ ก่อนขึ้นไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ไม่ดื่มหรือเสพอะไรที่จะทำให้เกิดความมึนเมา  ขจัดอารมณ์ที่ขุ่นมัวออกไปก่อนการควบคุมรถยนต์ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรขับรถอย่างเด็ดขาด

...

ระยะของการเบรกเป็นส่วนหนึ่งของระยะการหยุดรถ ขณะขับขี่ ไม่จำเป็นต้องใช้เบรกตลอดทางทุกครั้งที่เห็นสิ่งต่างๆ ซึ่งอาจเป็นตัวแปรบนถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การเบรกที่ปลอดภัยก็คือการวิเคราะห์และเก็บข้อมูลเพื่อคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณจะจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อย่างไร มากกว่าจะไปแบบไม่ยั้งคิดแล้วไปวัดดวงเอาข้างหน้า หากมีอะไรตัดหน้าก็คิดว่าเบรกน่าจะเอาอยู่ ในช่วงที่สมองของคุณกำลังประมวลผลแล้วสั่งให้เหยียบเบรก จะเป็นเวลาเสี้ยววินาทีที่สูญเสียไปกับความคิดก่อนจะตัดสินใจ คุณจะสูญเสียระยะทางของการเบรกที่ปลอดภัยไปครึ่งหนึ่ง ยิ่งขับรถเร็วมากเท่าไรก็จะยิ่งเสียระยะทางของการเบรกไปมากเท่านั้นเป็นเงาตามตัว

เมื่อขับเร็ว จะทำให้มีระยะคิดและแยกแยะลดน้อยลง ความเร็วเป็นอุปสรรคต่อระยะคิด ถ้ามีเวลาเท่ากัน แต่มีความเร็วต่างกัน ระยะคิดก็จะต่างกัน เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง ระยะคิดจะทำให้เสียระยะทางของการเบรกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ขับมาด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่จะต้องใช้เบรก ถ้าใช้เวลาในการตัดสินใจ 0.75 วินาที จะเสียระยะทางมากถึง 20 เมตร เมื่อขับที่ความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วเกิดอะไรตัดหน้าที่จะต้องใช้เบรกเต็มกำลัง ใช้เวลาคิดตัดสินใจเท่ากันที่ 0.75 วินาที จะเสียระยะเบรกไปแค่ 12 เมตร ห่างกันถึง 8 เมตร เป็นระยะที่ตัดสินความเป็นความตายได้เลยทีเดียว


...

ระยะหยุดรถของรถยนต์ประกอบด้วยระยะตอบสนอง (ระยะทางที่รถวิ่งก่อนเบรก) และระยะทางขณะเบรก (ระยะทางที่รถวิ่งขณะเบรก)  จากการทดสอบและรวบรวมข้อมูล เวลาตอบสนองเฉลี่ยของผู้ขับ อยู่ที่ประมาณ 0.75-1 วินาที แต่จะแตกต่างกันไปตามสิ่งรบกวนสมาธิ การดื่มแอลกอฮอล์หรือสารเสพติด และความเร็ว ความเร็วที่สูงขึ้นจะเพิ่มทั้งระยะตอบสนองและระยะทางอย่างมาก ทำให้ต้องใช้พื้นที่มากขึ้นในการหยุดรถอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะบนถนนเปียก

ตัวแปรที่มีความสำคัญ

เวลา/ระยะทางตอบสนอง: เวลาตั้งแต่เห็นอันตรายจนถึงการเหยียบเบรก (เฉลี่ยประมาณ 0.75-1 วินาที) บวกกับระยะทางที่วิ่งในช่วงเวลานั้น ซึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมากตามความเร็ว

ระยะทางขณะเบรก: ระยะทางตั้งแต่เหยียบเบรกจนรถหยุดสนิท ซึ่งได้รับผลกระทบจากความเร็ว (เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ) และสภาพถนน (แรงยึดเกาะน้อยลง = ระยะทางไกลขึ้น)

ระยะหยุดรถทั้งหมด: ระยะตอบสนอง + ระยะทางขณะเบรก

ตัวอย่างระยะทาง (บนพื้นถนนแห้ง)

ที่ความเร็วประมาณ 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง: ระยะทางในการตอบสนองประมาณ  13 เมตร  + ระยะทางในการเบรกประมาณ  14 เมตร  = ระยะทางรวมประมาณ  27 เมตร 

...

ที่ความเร็วประมาณ 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง : ระยะทางในการตอบสนองประมาณ 27 เมตร + ระยะทางในการเบรกประมาณ 55 เมตร= ระยะทางรวมประมาณ 82 เมตร 

ที่ความเร็วประมาณ 113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง : ระยะทางในการตอบสนองประมาณ  31 เมตร  + ระยะทางในการเบรกประมาณ  75 เมตร  = ระยะทางรวมประมาณ 106 เมตร 

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะทางในการหยุดรถ

ความเร็ว: ปัจจัยที่สำคัญที่สุด การเพิ่มความเร็วเป็นสองเท่าจะทำให้ระยะทางในการเบรกเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่า

สภาพของผู้ขับ : ความเหนื่อยล้า สิ่งรบกวนสมาธิ (การใช้โทรศัพท์)  มึนเมา (แอลกอฮอล์/ยาเสพติด) เวลาในการตอบสนองช้า

สภาพรถ: ผ้าเบรกสึกหรอ ยางสึกจนหมด ทำให้ประสิทธิภาพในการหยุดลดลง

สภาพถนน: ถนนเปียก ถนนเป็นน้ำแข็ง หรือถนนลูกรัง ทำให้การยึดเกาะลดลง ส่งผลให้ระยะเบรกยาวขึ้น

สูตรสำเร็จของความประมาท สำหรับนักขับที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ยังมีผู้ใช้รถยนต์จำนวนมากที่เข้าใจเอาเองว่าระยะเบรกกับระยะของการหยุดรถเป็นระยะเดียวกันหรือเหมือนกัน จากความเข้าใจที่ผิดพลาดทำให้เกิดกรณีเบรกไม่อยู่แล้วนำไปสู่อุบัติเหตุรุนแรงจนบางรายถึงกับบาดเจ็บสาหัส พิการหรือเสียชีวิต การเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับระยะของการเบรกทำให้เบรกไม่ทัน หยุดรถไม่อยู่จนพาตัวเองและครอบครัวเข้าไปสู่กับดักแห่งอันตราย ระยะเบรกจะมากหรือน้อยแค่ไหนไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่เรื่องที่มีความสำคัญสูงสุดก็คือ ระยะที่คุณสามารถหยุดรถได้ทันต่างหากที่มีความสำคัญเมื่อต้องขับรถใช้ถนน.

...

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]  
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom  
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/