ทหารไทยระดมยิงปืนใหญ่ ตอบโต้ทหารกัมพูชา ด้านชายแดน จ.ตราด ตั้งแต่เช้ามืด หลังพยายามชิงพื้นที่บ้านสามหลัง ยันเอาคืนไม่ได้แน่นอน เร่งหาทุ่นระเบิดอีก 4 ทุ่น ซ่อนไว้รอบบ้าน
วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชายแดนด้าน จ.ตราด เกิดเสียงปืนดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ช่วงเวลาประมาณ 05.00 - 06.00 น. ซึ่งจากการสอบถาม น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ทราบว่า ห้วงเวลาดังกล่าว ทหารฝ่ายไทยตรวจการณ์พบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา ได้นำรถยนต์จำนวน 3-4 คัน เข้ามายังพื้นที่บ้านสามหลัง ทำให้ฝ่ายไทยต้องระดมยิงปืนใหญ่และปืน ค. ขับไล่ออกจากพื้นที่ มีการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กสลับกันไป แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่มีอาวุธหนักตอบโต้ฝ่ายไทย เพราะถูกทำลายไปหมดแล้ว
ผบ.ฉก.นย.ตราด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากฝ่ายไทยเข้ายึดพื้นที่บ้านสามหลังได้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชา มีความพยายามนำกำลังเข้าตีคืนบ้านสามหลังอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทหารฝ่ายไทยได้ใช้ฐานที่มั่นและบังเกอร์ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างไว้อย่างแข็งแรงทนทานจากแรงระเบิดจากระเบิด F-16 มาใช้ประโยชน์ยิงตอบโต้ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งขณะนี้ทหารไทยจะต้องรักษาพื้นที่บ้านสามหลังไว้

...
โดยล่าสุดได้วางกำลังไว้ทั้งหมดแล้ว และเชื่อว่าทหารฝ่ายกัมพูชาไม่สามารถตีคืนบ้านสามหลังได้แน่นอน เพราะฝ่ายกัมพูชาอ่อนกำลังเป็นอย่างมากและขวัญกำลังใจถดถอย อีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามหนีไปอย่างเร่งรีบ ทิ้งทั้งเป้และอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้เป็นจำนวนมาก การที่เขาพยายามเข้าตีคืนน่าจะเป็นการทำตามคำสั่งเพื่อหลีกเลี่ยงโทษกบฏมากกว่าความพร้อมในการรบ
“สิ่งที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด มีความกังวลมากกว่า คือ ทุ่นระเบิดรถถังที่ดัดแปลงติดตั้งไว้ทั่วพื้นที่บ้านสามหลัง ที่หน่วยเก็บกู้สามารถเก็บกู้ได้แล้ว 16 ทุ่น แต่เชื่อว่ายังมี 4 ทุ่น แต่ยังไม่เจอ” น.อ.ธรรมนูญ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ในภาพรวม น.อ.ธรรมนูญ ยืนยันว่าพื้นที่ อ.คลองใหญ่ และ อ.บ่อไร่ ปลอดภัยแล้ว เนื่องจากไม่มีการยิงโต้ตอบมานานกว่า 7 วัน ประชาชนสามารถกลับเข้าที่พักอาศัยได้ตามปกติ ส่วนกรณีเสียงปืนและควันไฟที่บ้านสามหลังเมื่อวันก่อน ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเพียงการเผานาของชาวบ้าน ไม่ใช่การซุ่มโจมตีตามที่ตื่นตระหนกกัน

ในส่วนของ "โดรน" ที่มีรายงานว่า พบการบินวนในพื้นที่บ้านท่าเส้น น.อ.ธรรมนูญ ชี้แจงว่าส่วนใหญ่เป็นโดรนตรวจการณ์ขนาดเล็กที่บินเพื่อก่อกวน ไม่ใช่โดรนโจมตี และเชื่อว่ามีการปล่อยโดรนจากภายในพื้นที่ใกล้เคียง จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะฝ่ายไทยมีมาตรการเฝ้าระวังและรู้พิกัดของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
