ปชป.ดีเดย์ แคมเปญ ศุกร์สีฟ้า “ประเทศไทยไม่ทน” วันแรก “อภิสิทธิ์” จ่อเปิดตัวนโยบาย - ผู้สมัคร สส.กทม. 22 ธ.ค.นี้  ยังกั๊ก “การดี - วีระพงษ์” นั่งแคนดิเดตนายกฯ แต่เชื่อไม่แพ้พรรคอื่นแน่

วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวแคมเปญ ศุกร์สีฟ้า “เปิดฟ้าใหม่” ช่วยกันส่งเสียงว่าประเทศไทยจะไม่ทน ซึ่งถือเป็นแคมเปญแรกของพรรค  โดยที่ผ่านมา การเมืองสีเทาทำให้คนไทยถูกทอดทิ้ง วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากเชิญทุกคนให้มาร่วมกับเรา เพราะต้องการสร้างการเมืองที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้

โดย 2-3 วันนี้ ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะรณรงค์และรับฟังเสียงจากประชาชนว่า สิ่งที่แต่ละคนต้องทนในอดีตที่ผ่านมามีอะไรบ้าง และพวกเราจะไม่ทนกับอะไรอีกต่อไป โดยวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้นำแถลงถึงสิ่งที่พรรคจะดำเนินการต่อ และวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) จะเปิดโพลให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ว่าที่ผ่านมาต้องทนกับปัญหาอะไร

...

ส่วนกระบวนการที่สำคัญที่สุดของนักการเมืองและพรรคการเมือง คือ การออกมารณรงค์และรับฟัง ซึ่งตอนนี้ได้รณรงค์เรื่องประเทศไทยจะไม่ทน และอีกส่วนคือ การรับฟังปัญหาว่าที่ผ่านมาประชาชนต้องทนอะไรกันบ้าง นี่คือประเด็นการรณรงค์ในช่วง 3 วันที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นหากพบปัญหาก็จะต้องเสนอวิธีการแก้ไข โดยประเด็นดังกล่าว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้แถลงด้วยตนเองว่า จากปัญหาดังกล่าวจะมีวิธีการในการแก้ไขปัญหาอย่างไร นั่นคือสิ่งที่จะใช้รณรงค์หาเสียงในช่วงที่ 2

นักข่าวถามว่า แคมเปญดังกล่าวเกี่ยวข้องอย่างไรกับนโยบายพรรค ร.ต.อ.พงศกร บอกว่า นโยบายย่อมเกิดจากปัญหาและสิ่งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข นั่นคือสิ่งที่ทางพรรคอยากรับฟังจากประชาชน เพราะอยากให้ประชาชนมาเติมเต็มและตอกย้ำว่า สิ่งที่เราทำมาถูกทางหรือไม่ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะนำมาสู่การแก้ไขปัญหา ซึ่งจะบอกในวันจันทร์นี้เช่นกัน 

สำหรับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่า ทางพรรคมีความเชี่ยวชาญ เพราะหัวหน้าพรรคเป็นนักเศรษฐศาสตร์ สามารถที่จะดูองค์รวมด้านเศรษฐกิจได้อยู่แล้ว และรองหัวหน้าพรรคอาจจะมีความแตกต่างจากพรรคอื่น เพราะพรรคอื่นอาจจะมีคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ หรือทีมเศรษฐกิจ แต่ของเรารองหัวหน้าพรรค 4 ท่าน จะเกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจโดยตรง ทำให้มั่นใจว่าทางพรรคจะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่แพ้พรรคอื่นแน่นอน

นักข่าวถามว่า เรื่องของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นคนในพรรคหรือไม่ ร.ต.อ.พงศกร บอกว่า คนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นสมาชิกพรรค ดังนั้น จึงต้องเป็นคนในพรรคอยู่แล้ว เมื่อถามว่าถ้าเป็นแคนดิเดตคนนอกจะเป็นนักการเมืองมืออาชีพมาก่อนหรือไม่ ประเด็นนี้ยังตอบไม่ได้ แต่คิดว่าคงต้องเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านจริงๆ

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของพรรคการเมืองอื่นที่เปิดชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่าอย่างไรบ้างนั้น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของทุกพรรค มีความหลากหลายเรื่องแง่มุมต่างๆ ซึ่งหลายพรรคก็ยังไม่ได้มีความชัดเจน เช่น พรรคภูมิใจไทย ที่ยังไม่ได้เปิดตัว แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามนำเสนอคือ การนำเสนอครอบคลุมทุกมิติ หากคำว่า จะสู้พรรคอื่นได้หรือไม่ ตัวเองมองว่า “ไม่แพ้แน่นอน” คิดว่า แคนดิเดตพรรคประชาธิปัตย์สามารถที่จะทำภารกิจสำคัญของประเทศชาติได้อย่างดี” ร.ต.อ.พงศกร กล่าว

ส่วนการเปิดตัวผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ ได้เปิดรายชื่อไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นรายชื่อที่ผ่านการเลือกโดยคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อถามว่ามีโอกาสจะสู้คนอื่นได้หรือไม่ “หากถามเรื่องคุณวุฒิค่อนข้างมั่นใจว่า เพราะการเปิดรับสมัคร สส. ครั้งนี้ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เช่น ในกรุงเทพฯ มีคนสมัครถึง 150 คน แต่คัดเหลือเพียง 33 คน นั่นคือการคัดให้เหลือน้อยมาก คนที่เหลือจึงมีศักยภาพสูง”

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวว่า ในสนามการเลือกตั้งภาคใต้พรรค ประชาธิปัตย์กลับมาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลังจากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน นิดา โพล ได้สะท้อนว่า “ความนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นกำลังใจให้กับผู้สมัครของพรรคเป็นอย่างมาก ซึ่งหากประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคที่จะเปิดตัวในวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ก็มีโอกาสที่พรรคจะได้รับการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงในพื้นที่อื่นๆด้วย”

ขณะเดียวกัน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค อีก 2 คน คือ นางสาวการดี เลียวไพโรจน์ และนายวีระพงษ์ ประภา หรือไม่นั้น ทั้งสองคนถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ด้อยกว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่น ไม่แพ้แน่นอน ว่าจะสามารถทำในนโยบายสำคัญได้  แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ และยืนยันว่า จะเป็นบุคคลภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยจะต้องเป็นสมาชิกพรรค” ร.ต.อ.พงศกร กล่าว

สำหรับประเด็นความใหม่ของผู้สมัคร “พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ชูเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องของความเป็นมืออาชีพ ความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ เศรษฐกิจใหม่ๆ และการปรับตัว นี่คือสิ่งที่สำคัญมากกว่าความหมายทางการเมือง”

สำหรับเรื่องของความมั่นคงในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงเหตุการณ์สถานการณ์ชายแดนไทยและกัมพูชา ประเด็นแรก เราสนับสนุนการดำเนินการเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะทหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ รวมถึงกำลังพลทุกคน ที่ประสบกับปัญหาเกี่ยวกับข้อพิพาทไทยและกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นผู้อพยพและประชาชนในพื้นที่ จึงขอเป็นกำลังใจให้ 

ประการที่สองอยากให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอพยพเพื่อความปลอดภัยของประชาชน 

และประเด็นที่สาม สำคัญที่สุดคือ เรื่องการทูต ที่ต้องทำควบคู่กันไป หากการทูตทำได้ดี ความขัดแย้งก็จะสามารถลดเรื่องจำนวนผู้สูญเสีย และภาระของทหารได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญในส่วนนี้ด้วย และต้องสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่