สหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักรบรรลุข้อตกลงเพื่อคงอัตราภาษียาและเวชภัณฑ์ที่ UK ส่งออกให้สหรัฐฯ เหลือ 0% ต่อไปแล้ว ในขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขของ UK จะเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้นด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อ 1 ธ.ค. 2568 สหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักร บรรลุข้อตกลง คงอัตราภาษีศุลกากรสำหรับยาและเวชภัณฑ์ ที่ส่งออกจาก UK เข้าสู่สหรัฐฯ ไว้ที่ 0% ต่อไปอีก 3 ปี แลกกับการที่ UK จะต้องซื้อยาผ่านระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ในราคาที่สูงขึ้น
นอกจากนั้น UK จะเพิ่มการใช้จ่ายของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) จาก 0.3% ของจีดีพี เป็น 0.6% ของจีดีพี ตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า จำกัดจำนวนเงินที่บริษัทผู้ผลิตยาต้องจ่ายคืนให้กับ NHS ไว้ที่ 15% เพื่อให้แน่ใจว่า NHS จะไม่ใช้จ่ายเกินงบประมาณที่จัดสรรไว้ หลังจากเมื่อปีก่อน บริษัทผู้ผลิตยาต้องจ่ายคืนมากกว่า 20%
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ว่า จะขึ้นภาษีนำเข้ายามียี่ห้อในอัตราสูงสุดถึง 100% โดยยาเหล่านี้เป็นหนึ่งในสินค้าที่ UK ส่งออกไปสหรัฐฯ มากที่สุด
นายปีเตอร์ ไคล์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธุรกิจและการค้าของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะรับประกันว่า การส่งออกยาและเวชภัณฑ์ของสหราชอาณาจักร ซึ่งมีมูลค่าอย่างน้อย 5 พันล้านปอนด์ต่อปี จะเข้าสู่สหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร ซึ่งช่วยปกป้องงาน กระตุ้นการลงทุน และปูทางให้สหราชอาณาจักรกลายเป็น ศูนย์กลางระดับโลกสำหรับวิทยาศาสตร์ชีวภาพ
ตามข้อมูลของกระทรวงธุรกิจและการค้า สหราชอาณาจักรส่งออกยาไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 1.11 หมื่นล้านปอนด์ ในช่วง 12 เดือนจนถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็น 17.4% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมดของสหราชอาณาจักรในช่วงเวลานั้น
...
ยาและเวชภัณฑ์ไม่ได้รวมอยู่ในมาตรการภาษีที่นายทรัมป์เริ่มบังคับใช้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่เขาขู่ซ้ำๆ ว่า จะขึ้นภาษียาอ้างว่า กังวลที่สหรัฐฯ พึ่งพายาที่ผลิตในต่างประเทศมากเกินไป และต้องการเพิ่มการผลิตในสหรัฐฯ
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc