“พล.ท.ภราดร” ชู 4 พันธกิจแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำสถานการณ์คุกรุ่น มั่นใจหากพรรคไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาล แก้ได้ทันที


วันที่ 2 ธันวาคม 2568 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ประธานยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เปิดเผยถึงแนวคิดด้านความมั่นคงและบทบาททางการเมืองร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย ว่า การผสานเจตจำนงทางการเมืองกับองค์ความรู้ด้านความมั่นคงที่สั่งสมมา จะช่วยผลักดันประชาธิปไตยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และตอบโจทย์ปัญหาความมั่นคงที่ประเทศกำลังเผชิญ กลุ่มสวัสดีคนไทยต้องการผลักดันนโยบายให้ลงสู่พื้นที่และเกิดผลจริง ซึ่งจังหวะทางการเมืองในปัจจุบันเปิดโอกาสให้เข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย ตนจะนำประสบการณ์ที่เคยเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาประยุกต์ใช้ เพราะขณะนี้ประเทศกำลังอยู่ในสถานการณ์ความมั่นคงที่คุกรุ่นมาหลายเดือน ทั้งกรณีพิพาทไทย–กัมพูชา ปัญหาสแกมเมอร์ข้ามชาติ และภัยพิบัติอย่างสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ ล้วนต้องการการแก้ไขอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ หากพรรคไทยสร้างไทยได้โอกาสเป็นรัฐบาล สามารถเดินหน้าจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ทันที โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ “สถาปนาความมั่นคงชายแดน” ที่มีพันธกิจ 4 ประการ คือ การจัดระบบข่าวกรองชายแดน, การจัดกองกำลังและการลาดตระเวนรับมือเหตุฉุกเฉิน, การจัดระเบียบความมั่นคงชายแดนเพื่อควบคุมและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการจัดการปัญหาคนไร้สัญชาติ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน แผนงานเหล่านี้มีเจ้าภาพชัดเจน ทั้ง สมช. หน่วยงานด้านทหาร และหน่วยงานความมั่นคงอื่น แต่ที่ผ่านมาไม่ถูกหยิบมาใช้ทั้งที่สามารถดำเนินการได้ทันทีภายในหนึ่งสัปดาห์หลังเข้ารับอำนาจรัฐ

...

ขณะเดียวกัน พล.ท.ภราดร ยืนยันด้วยว่า พรรคไทยสร้างไทยเตรียมหยิบประเด็นด้านความมั่นคงมาเป็นนโยบายสำคัญ โดยเฉพาะกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ใช้แนวทางสันติวิธี เน้นการพูดคุยสันติภาพและการสร้างพื้นที่ปลอดภัยเป็นหัวใจของการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ตนได้พูดคุย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมหารือแนวทางปรับนโยบายระหว่างกลุ่มสวัสดีคนไทยกับพรรคไทยสร้างไทยให้สอดคล้องกัน โดยตนจะมุ่งเน้นด้านความมั่นคง ขณะที่พรรคไทยสร้างไทยจะดูแลนโยบายในมิติอื่น เพื่อให้เกิดนโยบายร่วมที่สามารถผลักดันสู่การปฏิบัติได้จริงหากพรรคได้เป็นรัฐบาล

พล.ท.ภราดร ระบุในช่วงท้ายว่า หากพรรคไทยสร้างไทยได้อำนาจรัฐ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างด้านความมั่นคง เพราะเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำให้ฝ่ายนโยบายและฝ่ายประจำทำงานสอดประสานกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ได้ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาความมั่นคงล่าช้าและไม่ตอบโจทย์ประชาชน.