สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้เปิดเผยข้อมูลว่าพื้นที่ปลูกฝิ่นในประเทศพม่าได้ขยายตัวอย่างมากถึงกว่า 331,250 ไร่ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วหลังจากการยึดอำนาจของรัฐบาลทหารในปี 2015 และการปราบปรามยาเสพติดในอัฟกานิสถาน.
กิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้ถือเป็นแหล่งทุนสำคัญที่ใช้ในการสนับสนุนสงครามกลางเมืองในพม่า โดย UNODC เตือนว่าการปลูกฝิ่นในประเทศนี้ได้สร้างสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี และมีแนวโน้มว่าเฮโรอีนจะถูกลักลอบนำเข้าสู่ตลาดตะวันตก.
พม่าถือเป็นประเทศผู้ผลิตฝิ่นรายใหญ่ และได้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดนี้ เนื่องจากการปราบปรามการค้าฝิ่นในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2022 โดยนักวิเคราะห์มองว่ากิจกรรมผิดกฎหมายในพม่าเป็นแหล่งรายได้หลักในการสนับสนุนสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021.
รายงานจาก UNODC ในปีนี้ยังระบุว่าหลังจากการปราบปรามในอัฟกานิสถาน มีสัญญาณชัดเจนว่าเฮโรอีนที่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเข้าสู่ตลาดที่ไม่เคยจัดหาจากภูมิภาคนี้มาก่อน โดยมีการยึดเฮโรอีนจำนวน 60 กิโลกรัม ที่มีแหล่งกำเนิดจากพม่าจากผู้โดยสารที่เดินทางไปยังสหภาพยุโรป.
แม้ว่าการลักลอบขนส่งจะยังไม่มากนัก แต่สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอาจทำให้การปลูกฝิ่นในพม่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น.
รายงานยังชี้ว่าแม้การปลูกฝิ่นในพม่าจะมีอยู่ก่อนหน้านี้ แต่ความขัดแย้งในประเทศได้กระตุ้นตลาดมืดขึ้นอย่างรุนแรง เนื่องจากรัฐบาลกลางที่อ่อนแอและความยากจนที่เพิ่มขึ้น.
แม้พื้นที่ปลูกฝิ่นจะเพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2024 แต่ผลผลิตในปีนี้ยังคงอยู่ที่ประมาณ 1,000 ตัน.