“เพื่อไทย”ประกาศความพร้อมเลือกตั้ง หลังรัฐบาลยุบสภา ชี้เป็นการหนีตรวจสอบและสะท้อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ยัน MOA ไร้ผล เปิดช่องให้พรรคภูมิใจไทยใช้อำนาจ เครือข่ายรัแสวงหาผลประโยชน์
เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2568 ที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรค แถลงจุดยืนหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา พร้อมยืนยันว่าพรรคมีความพร้อมเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่เพื่อ “นำความหวังและโอกาสที่ดีกลับคืนสู่ประชาชน”
ชี้การยุบสภาคือการหนีตรวจสอบ
นายจุลพันธ์ อ่านแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การยุบสภาของรัฐบาลครั้งนี้คือ “การหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและความรับผิดชอบ” ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดและไร้ประสิทธิภาพ ทั้งในประเด็น ความขัดแย้งชายแดน ที่ยังแก้ไขไม่ได้อย่างยั่งยืน การโยกย้ายข้าราชการและใช้งบประมาณเอื้อประโยชน์กลุ่มคนบางกลุ่ม ความน่าเชื่อถือของประเทศที่ตกต่ำในสายตานานาชาติ ประชาชนเดือดร้อนจากอุทกภัย เสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือน คดีสำคัญไม่เดินหน้าอย่างโปร่งใส
แก้รัฐธรรมนูญไร้ความจริงใจ
พรรคเพื่อไทยเห็นวารัฐบาลไม่เคยมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น เพราะสัญญา MOA ที่จัดทำขึ้นไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักประชาธิปไตย และตั้งแต่แรก ความพยายามของพรรคเพื่อไทยที่จะสร้างกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงประชาชนก็ถูกปัดตกทันที ประเทศไม่ได้ประโยชน์ใดจากกระบวนการนี้ กลับกลายเป็นการเปิดช่องให้พรรคภูมิใจไทยใช้อำนาจ ทรัพยากร และเครือข่ายของรัฐในการแสวงหาผลประโยชน์และสะสมอำนาจเพิ่มขึ้น
...
เรียกร้อง ปชน. รับผิดชอบ
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้ พรรคประชาชน เคยมาเจรจาขอให้เพื่อไทยชะลอการยื่นอภิปราย พร้อมยืนยันว่าจะร่วมกันตรวจสอบรัฐบาล หากการแก้รัฐธรรมนูญไม่สามารถดำเนินต่อได้ แต่ในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อคืน พรรคประชาชนกลับเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ซึ่งเปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารใช้ช่องทางดังกล่าวหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบจากฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่า คู่สัญญาใน MOA ต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวนี้ร่วมกัน แม้เสียดายโอกาสของประเทศที่สูญเสียไปเพราะการเมืองไร้เสถียรภาพ พรรคเพื่อไทยย้ำว่า ประชาชนต้องไม่สิ้นหวัง โดยพรรคมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและวางรากฐานใหม่ให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างแท้จริง
โดย ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ จะมีการเปิดตัว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรค ภายใต้แคมเปญ “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้” ซึ่งจะนำเสนอนโยบายด้าน เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และคุณภาพชีวิต โดยยึดหลักคิด วิทยาศาสตร์-ข้อมูลจริง-ความเป็นไปได้ทางปฏิบัติ