อาวุธปล่อยนำวิถี AGM-/RGM-/UGM-84 Harpoon พัฒนาโดยบริษัท McDonnell Douglas Astronautics Company  สหรัฐอเมริกา เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีแบบพื้น - สู่ - พื้น และอากาศ - สู่ - พื้น  ใช้ทำลายเรือผิวน้ำ ด้วยความเร็ว 864 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ติดตั้งหัวรบอำนาจทำลายสูง ด้วยดินระเบิดขนาด 500 ปอนด์  โจมตีเป้าหมายซึ่งมองเห็นได้ หรือที่อยู่ไกลเกินขอบฟ้า  ทำงานได้อย่างต่อเนื่องในทุกสภาวะอากาศ เครื่องคันหาเป้ามีสมรรถภาพสูง ตรวจจับเป้าได้ในระยะไกล มีขีดความสามารถติดตามเป้าในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ซึ่งระยะยิงของอาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon  Block 1C ที่ไกลที่สุด คือ 75ไมล์ทะเล (138.9 กิโลเมตร)  สามารถค้นหาเป้าเรือผิวน้ำภายในพื้นที่รัศมีวงกลมได้มากกว่า 17,500 ตารางไมล์ (45,324.79 ตารางกิโลเมตร)  ทำการยิงได้จากเรือผิวน้ำ ด้วยการใช้แท่นยิงที่ติดตั้งบนเรือผิวน้ำ ซึ่งอาจจะเป็นแท่นยิงของ ตัวระบบ Harpoon เองหรือแท่นยิงของระบบอาวุธอื่น ๆ ซึ่งได้ปรับปรุงให้สามารถทำการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูนได้

...

ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ AGM-/RGM-/UGM-84 Harpoon เป็นขีปนาวุธโจมตีเรือรบระยะไกลที่บินต่ำเหนือผิวน้ำ และเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือรบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลกตะวันตก เดิมทีขีปนาวุธ Harpoon รุ่นที่ยิงจากเรือถูกออกแบบมาเป็นขีปนาวุธโจมตีเรือดำน้ำชั้น Echo ของโซเวียตที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ปัจจุบันขีปนาวุธนี้ถูกใช้งานบนเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ ในตำแหน่งป้องกันชายฝั่งบนบก และติดตั้งบนเครื่องบินเพื่อต่อต้านเรือรบผิวน้ำ 


ลักษณะ: ทรงกระบอกหนาปลายแหลม; ปีกรูปทรงกากบาทและสี่เหลี่ยมคางหมูบริเวณกลางลำตัว ครีบควบคุมรูปทรงกากบาทและสามเหลี่ยมปลายตัดที่ส่วนท้าย ปีกและพื้นผิวควบคุมสามารถพับเก็บได้ และกางออกหลังการปล่อย เครื่องยนต์จรวด มีช่องรับอากาศใต้ท้องเกือบเรียบ รุ่นปล่อยจากผิวน้ำมีส่วนบูสเตอร์สั้น พร้อมครีบรูปทรงกากบาท ขีปนาวุธ Harpoon ทุกรุ่นจนถึง Block 1C มีตัวขีปนาวุธแบบเดียวกัน ระบบการปล่อยที่แตกต่างกันจะใช้ปีกและครีบตัวขีปนาวุธที่แตกต่างกัน รวมถึงอุปกรณ์ยึด ขีปนาวุธ Harpoon ที่ปล่อยจากเรือผิวน้ำ เรือดำน้ำ หรือแท่นป้องกันชายฝั่งต้องใช้บูสเตอร์แบบเดียวกันสำหรับทุกการใช้งาน ขีปนาวุธ Harpoon ที่ปล่อยจากอากาศไม่จำเป็นต้องใช้บูสเตอร์และมีหูยึดเสาแทนอุปกรณ์ยึด รุ่น Block 1D (AGM/RGM-84F) มีปลั๊กขนาด 23.2 นิ้ว (592 มม.) สำหรับความจุเชื้อเพลิงที่มากขึ้น ปีกมีการย้ายตำแหน่ง และหน่วยนำทางขีปนาวุธ (MGU) ที่ใช้พื้นฐานจาก AGM-84E SLAM  

เช่นเดียวกับขีปนาวุธ Exocet ของฝรั่งเศส ขีปนาวุธ Harpoon เป็นอาวุธแบบ "ยิงแล้วลืม" (กล่าวคือ Harpoon จะไม่ได้รับการอัปเดตตำแหน่งเป้าหมายหลังการยิงจากแท่นยิง) ข้อมูลเป้าหมายจะถูกพัฒนาในรูปแบบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแท่นยิง เรือผิวน้ำใช้ชุดควบคุมและสั่งการยิง Harpoon บนเรือ (HSCLCS หรืออ่านว่า "Sickles") (ระบบป้องกันชายฝั่ง Harpoon (HCDS) ก็คล้ายกัน) เครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น P-3, F27 Maritime, B-52G และ Nimrod ติดตั้งชุดควบคุมและสั่งการยิงบนเครื่องบินแบบ "แยกอิสระ" (HACLCS หรือ "Hackles") ส่วนเครื่องบินอื่นๆ เช่น S-3 Viking และ F-111C "Pig" ของออสเตรเลีย มีระบบไฮบริดที่ขึ้นอยู่กับระบบควบคุมอาวุธของเครื่องบินบางส่วน

...

เมื่อขีปนาวุธไปถึงระยะที่เลือกไว้ล่วงหน้าจากตำแหน่งที่คาดการณ์ไว้ของเป้าหมาย ระบบค้นหาเป้าหมายด้วยเรดาร์แบบแอคทีฟที่ปรับความถี่ได้จะใช้รูปแบบการค้นหาแบบ Range and Bearing Launch (RBL) ที่ตั้งโปรแกรมไว้เพื่อค้นหาเป้าหมายในพื้นที่ที่กำหนด ในรุ่น Block 1C ขีปนาวุธมีระบบ Electronic Counter Countermeasures (ECCM) ที่ได้รับการปรับปรุงเป็นส่วนหนึ่งของการอัพเกรดขีปนาวุธ จุดเริ่มต้นของการค้นหาแบบวงกลมจะเยื้องจากเป้าหมายในทิศทางที่ให้โอกาสที่ดีที่สุดในการค้นหาเป้าหมายที่ต้องการ การค้นหาแบบ Bearing Only Launch (BOL) จะใช้เมื่อไม่ทราบระยะทางไปยังเป้าหมาย หรือเมื่อทราบทิศทางหรือระยะทางของเป้าหมายอย่างไม่แม่นยำ รูปแบบการค้นหา BOL จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสแทนที่จะเป็นวงกลม

โหมดการโจมตีขั้นสุดท้าย ซึ่งเลือกไว้ล่วงหน้าผ่าน CLS คือ การโผล่ขึ้นที่ระดับความสูงต่ำ หรือการบินต่ำเหนือผิวน้ำไปยังเป้าหมาย ขึ้นอยู่กับสภาพทะเล ขนาด และระบบป้องกันของเป้าหมาย หัวรบระเบิดแรงสูงจะทะลุผ่านโครงสร้างส่วนบนหรือแผ่นเหล็กตัวเรือและระเบิดอย่างรุนแรงภายในลำตัวเรือซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับโครงสร้างของเรือที่ถูกยิง 

...


กองทัพเรือไทย ได้เริ่มนำอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น - สู่ - พื้น แบบ Harpoon เข้าประจำการครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2529 โดยติดตั้งมากับเรือคอร์เวตชุด เรือหลวงรัตนโกสินทร์ ต่อมาได้ทำการปรับปรุงเครื่องบินแบบ F - 27 MK 200 เมื่อปี พ.ศ.2533 ให้สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon แบบอากาศ - สู่ - พื้น เพื่อใช้โจมตีเรือผิวน้ำ 

...

ต่อมาเรือที่เข้าประจำการในกองทัพเรือหลายลำ ก็ได้รับการ ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูนเป็นอาวุธหลัก ได้แก่ เรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร 2 ลำ (เรือหลวงนเรศวร และ เรือหลวงตากสิน ปัจจุบันประจำการอยู่ใน กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ) เรือฟริเกตชุดเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก 2 ลำ เรือหลวงพุทธยอด ฟ้าจุฬาโลก และเรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย ปัจจุบันปลดประจำการ) เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ฯ

เครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำแบบ Fokker27-MK 400 ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือแบบ Boeing AGM-84A Harpoon Block IA ระยะยิง 120 กิโลเมตร

เรือหลวงนเรศวร (FFG-421), เรือหลวงตากสิน (FFG-422) และเรือหลวงรัตนโกสินทร์ (FS-441) ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือแบบ Boeing RGM-84D Harpoon Block 1C ระยะยิง 140 กิโลเมตร 

เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช (FFG-471) และเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ (OPV-552) ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือแบบ Boeing RGM-84L Harpoon Block II ระยะยิง 124 กิโลเมตร 

RGM-84L Harpoon Block II ที่ติดตั้งบนเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช (FFG-471) และเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ (OPV-552) นั้น ถือเป็น Harpoon Block ที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพเรือไทย  

จากการซ้อมรบทางทะเลของกองทัพเรือ อาวุธปล่อยนำวิถีรุ่นนี้ สามารถทำลายเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 101.86 กิโลเมตร  ได้อย่างแม่นยำ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของอาวุธปล่อยนำวิถีติดเรือรบ นอกจากนั้น การยิงอาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูน นับเป็นครั้งแรก ที่มีการยิงจากเรือที่ต่อขึ้นเองภายในประเทศ โดยเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำที่ 2 ที่กองทัพเรือขออนุมัติกระทรวงกลาโหมดำเนินการต่อขึ้นจากแบบเรือที่กองทัพเรือมีใช้ราชการ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ด้วยการน้อมนำและยึดถือการพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยใช้แบบเรือของเรือหลวงกระบี่ ที่กองทัพเรือได้ต่อขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 เป็นแบบพื้นฐาน.

ข้อมูลจาก

https://www.facebook.com/MilitaryWeaponsThailand


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]  
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom  
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358