ระยอง กรมโรงงานฯ บุกตรวจบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด หลังใช้เวลากว่า 1 ปี ปรับปรุงคุณภาพเหล็ก-อากาศเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน หากผ่านการตรวจสอบ-รู้ผลประมาณ 2 สัปดาห์ พร้อมให้เดินหน้าผลิตเหล็กได้ต่อ ด้านโรงงานเผยหยุดผลิต 1 ปี เสียหายกว่า 4,000 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายมานิตย์ นพอมรบดี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายจำลอง ช่วยรอด ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตัวแทนเจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เข้าตรวจสอบภายใน บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง หลังมีคำสั่งให้หยุดการดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากพบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพเหล็กไม่ได้มาตรฐาน มอก. และตลอดเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ได้ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพของการผลิตและปรับปรุงเรื่องของคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ได้มาตรฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันนี้ ตัวแทนแต่ละฝ่าย จึงเข้ามาตรวจสอบว่า คุณภาพเหล็กของทางโรงงาน มีการปรับปรุงได้คุณภาพแล้วหรือไม่

...




นายมานิตย์ นพอมรบดี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า วันนี้หน่วยงานหลักอย่างกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษ ได้เข้ามาตรวจสอบบริษัท ซิน เคอ หยวน ใน 2 ประเด็น คือเรื่องของคุณภาพอากาศ โดยเก็บตัวอย่างปลายปล่องควัน จะทราบผลภายใน 7-10 วัน และมีการเก็บตัวอย่างของเหล็ก โดยทาง สมอ.เป็นคนดำเนินการส่งไปตรวจที่แล็ปของสถาบันยานยนต์ สถาบันไทยเยอรมัน ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล โดยจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะรู้ผล ถ้าผ่านมาตรฐาน ก็สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้




นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงาน กล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบในวันนี้ และเก็บตัวอย่างเหล็ก หากผลการตรวจสอบออกมาเป็นไปตามมาตรฐานและตรงตามข้อกฎหมาย ทาง ซิน เคอ หยวน ก็มีโอกาสกลับมาเปิดทำการได้ตามปกติ

...




นายเขมพัสตร์ กิตติภักดีกุล ผู้จัดการ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาเพื่อร่วมตรวจพิสูจน์ โดยทางบริษัทยืนยันว่า บริษัทฯ สามารถผลิตเหล็กที่มีคุณภาพภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดีจากผู้ปฏิบัติงาน บริษัทฯ มีการเก็บตัวอย่างการผลิตในทุกๆ รอบ ดังนั้นค่อนข้างมั่นใจว่าจะผ่านได้อย่างเรียบร้อย และกลับมาผลิตได้อย่างที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงระยะเวลากว่า 1 ปีที่บริษัทต้องหยุดผลิต แต่ในแง่ของค่าใช้จ่ายไม่ได้หยุดตามไปด้วย ยังมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายรายเดือนค่อนข้างมาก อย่างเช่น ค่าจ้างเงินเดือนของพนักงาน 533 คน ประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน ยังมีค่าน้ำ ค่าไฟอื่นๆ รวมถึงค่าเสียโอกาสที่ต้องมีการส่งออกเหล็กที่ได้จากการผลิต รวมมูลค่าความเสียหายแล้ว ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท

...




ขณะที่ น.ส.รมิดา ไชยมงคล เจ้าหน้าที่ประจำตาชั่ง หนึ่งในตัวแทนพนักงานโรงงาน เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะยังมีงานทำ มีเงินเดือนอยู่ แต่ก็ได้ไม่เท่าจำนวนที่เคยได้รับในแต่ละเดือน แต่ค่าใช้จ่าย ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ ก็ยังต้องจ่ายทุกเดือน ซึ่งตนเองก็มีลูกเล็กๆ มีความหวังที่อยากจะให้โรงงานกลับมาเปิดตามปกติจะได้มีรายได้เหมือนเดิม

...



ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของฝุ่นแดงนั้น ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มีความเห็นว่าการครอบครองฝุ่นแดงของบริษัทฯ ไม่เกินปริมาณที่ได้จากกำลังการผลิต และตรวจสอบการนำเข้าและส่งออกจากกรมศุลกากร ไม่พบว่ามีการนำเข้าและส่งออกฝุ่นแดง ไม่มีการนำเข้าฝุ่นแดงจากต่างประเทศ อันจะบ่งชี้ว่ามีฝุ่นแดงจากแหล่งอื่นปะปน การสอบสวนไม่พบความผิด จึงให้แจ้งไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรมทราบตามขั้นตอนต่อไป.