นายกฯ อนุทิน ขอประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารชายแดนไทย-กัมพูชาจากทางการเป็นหลัก ระบุมติ สมช. พร้อมปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ยันไทยไม่เคยริเริ่มหรือรุกรานใครก่อน


วันที่ 8 ธันวาคม 2568 เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม พล.อ.อุกกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผบ.ทสส. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผบ.ทอ. และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 จนถึงขณะนี้ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในหลายพื้นที่ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลติดตามอย่างใกล้ชิดในทุกระยะและได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงบูรณาการการทำงานอย่างเต็มกำลังเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและปกป้องอธิปไตยของชาติไทยอย่างเคร่งครัด

รัฐบาลขอยืนยันว่าประเทศไทยจะดำรงความมุ่งมั่นสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิการปกป้องตัวเองอย่างชอบธรรม

และในวันนี้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ สมช. มีมติยืนยันรัฐบาลจะดำเนินการตามมติ สมช. คือจะมีการปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณีตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและให้มีการปฏิบัติการทหารในเรื่องอื่น ๆ ที่มีความจำเป็น

รัฐบาลมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในความสามารถของกองทัพไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบตามกฎการใช้กำลังและยึดหลักมนุษยธรรมในการปกป้องประชาชนและรักษาความสงบเรียบร้อยตลอดแนวพื้นที่ชายแดน. พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปยังประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว

...


ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องความเป็นอยู่ ที่พักพิง อาหารและน้ำดื่ม, การบริการทางการแพทย์และสวัสดิการที่จำเป็นอย่างสุดกำลัง


เพื่อความถูกต้องทางข้อมูลที่ประชาชนจะได้รับและเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก รัฐบาลขอวิงวอนให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากช่องทางของราชการเท่านั้น และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้สื่อสารข้อมูลหลักในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น


รัฐบาลจะบูรณาการข้อมูลร่วมกับทุกเหล่าทัพและหน่วยงานความมั่นคงทุกระดับเพื่อให้ข้อมูลที่ออกสู่สาธารณะไปสู่ประชาชนมีความถูกต้องชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการปกป้องประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนคือภารกิจสูงสุดของรัฐบาลและกองทัพไทย


ประเทศไทยไม่เคยต้องการความรุนแรงและยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยเป็นฝ่ายริเริ่มหรือรุกรานแต่อย่างใด แต่ประเทศไทยจะไม่ยอมให้มีการล่วงละเมิดอธิปไตยและจะดำเนินการอย่างมีเหตุมีผลรอบคอบ ยึดหลักสันติภาพ ความมั่นคง และมนุษยธรรมเป็นสำคัญ


รัฐบาลจะรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่องและพร้อมดำเนินการเพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงและดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด

ท้ายที่สุดขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลและในศักยภาพของกองทัพไทยและร่วมกันให้กำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้โดยทั่วกัน