เปิดประวัติ “บิ๊กตี๋” พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ จากอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ช่อง 5 เพื่อนร่วมรุ่นบิ๊กบี้ อดีตผบ.ทบ. สู่ แคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวจากพรรคเศรษฐกิจ
วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ภายหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศไทม์ไลน์เลือกตั้งออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันกาบัตรเลือกตั้ง และให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า พร้อมกำหนดให้วันที่ 27-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และกำหนดให้วันที่ 28-31 ธันวาคม 2568 เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) และแจ้งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
โดยในส่วนของพรรคเศรษฐกิจ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า จะเสนอชื่อ พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ (บิ๊กตี๋) หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ประวัติ พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ
สำหรับประวัติ พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ มีชื่อเล่นว่า ตี๋ เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 เติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจโรงหล่อพระพุทธรูป เรียนจบมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากนั้นไปศึกษาต่อที่ โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 22 (ตท.22) รุ่นเดียวกับ พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ (บิ๊กบี้) อดีตผู้บัญชาการทหารบก หลังจบเตรียมทหารได้รับทุนศึกษาต่อด้านการทหารที่สหรัฐอเมริกา ชีวิตส่วนตัว สมรสกับ พลตรีหญิง วัลลภา กิติญาณทรัพย์
พลเอก รังษี เริ่มต้นรับราชการที่ กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ จากนั้นเติบโตได้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพัน ในหน่วยรถถังและหน่วยยานเกราะ นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการทำงานด้าน มวลชนและพัฒนาชุมชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการดูแลและพัฒนาพื้นที่กว่าร้อยหมู่บ้าน และยังนั่งเป็น ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 และ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ช่วงสุดท้ายของชีวิตก่อนเกษียณอายุราชการ ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5)
...
เส้นทางสู่การเมือง ของ พลเอก รังษี
พลเอก รังษี ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ พรรคเส้นด้าย เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568 ภายหลังจากที่นายคริส โปตระนันทน์ ลาออกจากตำแหน่ง โดยในวันเดียวกันนั้น พรรคเส้นด้ายได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคเศรษฐกิจ” (Economic Party: ECON) โดยมี พลเอก รังษี เป็นผู้นำ นายคริส มานั่งเป็นประธานพรรค
พลเอก รังษี ให้เหตุผลในการเข้าสู่เส้นทางการเมืองว่าเป็น “ภารกิจเพื่อชาติ” เน้นการผลักดันนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและความมั่นคง โดยเฉพาะระยะหลังที่ไทยมีการปะทะกับกัมพูชาเรื่องชายแดน ทำให้กระแสนิยมของ พลเอก รังษี พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังติดอันดับผลโพลที่คนอยากสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากภาพลักษณ์ที่เป็นผู้นำที่เด็ดขาด อีกทั้งยังประกาศว่า พรรคเศรษฐกิจ “ไม่ใช่สีไหนทั้งนั้น” และ “ไม่ใช่นอมินีพรรคใด” พร้อมชูนโยบายที่เข้มข้นเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชัน รวมถึงการเสนอกฎหมายลงโทษประหารชีวิตผู้ที่ทำผิด และยังมีเป้าหมายสูงสุดคือการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี