ศป.กฉ. เผยคืบหน้าจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมแล้ว 1.2 แสนครัวเรือน ย้ำ น้ำประปา-ไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ เร่งบูรณาการทุกภาคส่วนจัดการขยะ พร้อมยืดเวลาส่งเงินสมทบประกันสังคมออกไป 6 เดือน
วันที่ 3 ธันวาคม 2568 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) แถลงถึงความคืบหน้าเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาว่า 2 วันที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปเยอะแล้ว ซึ่งช่วงวันที่ 1-2 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้โอนเงินเข้าบัญชีพี่น้องประชาชนแล้ว 120,949 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 1,088,541,000 บาท ในจำนวนที่โอนแล้วยังไปไม่ถึงพี่น้องประชาชนบางส่วน 2,878 ครัวเรือน เนื่องจากไม่ได้ผูกกับพร้อมเพย์ ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ต้องกังวล เมื่อดำเนินการผูกกับพร้อมเพย์แล้ว ธนาคารออมสินจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีทีเดียว
สำหรับวันนี้มีการโอนต่อ โดยตัวเลขจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะโอนให้ 66,187 ครัวเรือน คิดเป็นวงเงิน 595,683,000 บาท แบ่งเป็น 4 จังหวัด โดยมีจังหวัดสงขลา 46,976 ครัวเรือน ปัตตานี 16,953 ครัวเรือน สุราษฎร์ธานี 1,997 ครัวเรือน และยะลา 261 ครัวเรือน เชื่อว่าจากนี้ไปจำนวนจะเพิ่มขึ้น ด้วยการปลดล็อกกฎระเบียบ และการเน้นย้ำเรื่องวิธีการที่ขอทำให้สะดวกที่สุด ไม่เป็นภาระกับประชาชน รวมถึงธนาคารออมสินระดมเจ้าหน้าที่คีย์ตัวเลขเพื่อให้กระจายเงินเข้าสู่บัญชีให้ได้มากที่สุด

...
น.ส.รัชดา กล่าวต่อไปถึงเรื่องประปาไฟฟ้า รวมถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตว่า สำหรับเรื่องน้ำครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่อาจมีจุดย่อย อย่างกรณีน้ำประปาบ้านเรือนพื้นที่ใกล้สะพาน เพราะท่อประปาที่อยู่ตามคอสะพานมีการชำรุด จุดนี้การประปาฯ จะเร่งเข้าไปดำเนินการซ่อมแซม ขณะที่ไฟฟ้าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ยังมี 5,000 กว่าครัวเรือนที่กระจายกันอยู่ ยังไม่สามารถจ่ายไฟให้ได้ ไม่ใช่ว่าการไฟฟ้าไม่พร้อม แต่ปัญหาที่ทำให้ไฟไปไม่ถึง เพราะบ้านปิด, ที่บ้านระบบไฟฟ้ามีความเสียหายต้องซ่อมใหญ่ อาจต้องใช้เวลา ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเข้าไปดำเนินการดูแลให้ หรือบางส่วนเบรกเกอร์ไฟเสีย เพราะฉะนั้น 5,000 ครัวเรือนที่ไฟยังไปไม่ถึงขอเวลานิดหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน ทางด้านสัญญาณอินเทอร์เน็ต สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งมาว่า ณ เวลานี้ครอบคลุม 98% แล้ว
อีกเรื่องที่สำคัญคือการกำจัดขยะ อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นวาระที่บูรณาการกันทุกภาคส่วน ทางทหารบูรณาการเรื่องกำลังพล ร่วมกับอาสาสมัครอาสารักษาดินแดน และอาสาสมัครจากประชาชน กระจายอยู่ใน 4 โซน ส่วนองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ดูเรื่องตรอกซอกซอยเล็กๆ ทหารจะดูเรื่องของถนนพื้นที่สาธารณะในภาพกว้าง ซึ่งดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง แต่อาจมีคำถามบางพื้นที่อยู่ในการดูแลของ อบจ. มีการตั้งข้อสังเกตเก็บขยะจริงหรือไม่ ต้องเรียนว่ากระบวนการเก็บขยะ เริ่มจากที่บ้านทำความสะอาด เอาขยะออกไปวางที่หน้าปากซอย เพื่อให้ทหารมาขนไป แต่สมมติทำความสะอาดตรอกซอกซอยในตอนเช้า แต่ในตอนเย็นหรือตอนค่ำพี่น้องประชาชนอาจมีขยะมาเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นอาจมีความเข้าใจไปว่ายังไม่ได้มีการกวาดขยะออกไป ไม่ใช่ในลักษณะนั้น อย่างไรก็ตามเราจะทำงานสื่อสารให้กับพี่น้องประชาชนได้เข้าใจเรื่องของการเก็บขยะ และไม่ได้ย่อท้อในเรื่องการดำเนินการประเด็นนี้แต่อย่างใด ในภาพรวมทาง ศป.กฉ. ได้รับรายงานว่ามีการคลี่คลายสถานการณ์ขยะไปอย่างมาก

นอกจากนี้ในเรื่องการจราจร วันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รายงานข้อมูลจำนวนรถรอการเคลื่อนย้ายในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มียอดตรวจสอบ 513 คัน ติดต่อเจ้าของแล้ว 170 คัน ติดต่อเจ้าของไม่ได้ 86 คัน และอยู่ระหว่างการดำเนินการค้นหาเบอร์โทรเจ้าของรถ 343 คัน สำหรับพี่น้องที่รับฟังการแถลงข่าววันนี้ อยากติดตามว่ารถอยู่ไหนให้ติดต่อที่หมายเลขของตำรวจได้เลย ที่เบอร์ 191 หรือ 1599 หรือโทรไปยังกรมการขนส่งทางบก 1584 ในภาพรวมการจราจรทางตำรวจได้ขนย้ายรถที่จอดกีดขวางเส้นทางคมนาคมออกไปแล้ว แต่ยังเหลืออยู่บ้างบริเวณไหล่ถนน พร้อมย้ำว่าขอให้สบายใจเรื่องการจราจรในพื้นที่
ในช่วงท้าย กล่าวว่าเรื่องการสำรวจความเสียหายของอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมืองพร้อมแล้ว และดำเนินการลงพื้นที่สำรวจอาคารว่ามีจุดไหนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหรือไม่ สำหรับประชาชนที่ต้องการจะแจ้งความต้องการที่ให้เข้าสำรวจ โทรได้ที่หมายเลข 1531 ส่วนเรื่องประกันสังคม ในเรื่องการจ่ายเงินสมทบช่วงเวลาสถานการณ์ที่ทุกภาคส่วนเดือดร้อนขนาดนี้ทางประกันสังคมได้แจ้งมาว่าพี่น้องประชาชนที่อยู่ในระบบประกันสังคมไม่ต้องกังวลเรื่องการจ่ายเงินสมทบ เพราะประกันสังคมจะขยายเวลาออกไป 6 เดือน เช่น ต้องจ่ายในเดือนพฤศจิกายน ก็ไปจ่ายอีก 6 เดือนข้างหน้าได้ เป็นต้น เพราะฉะนั้นระยะเวลาขยายการจ่ายเงินประกันสังคมนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2568 ไปจนถึงเมษายน 2569 ให้ขยายแต่ละช่วงออกไป 6 เดือน
