ลูกปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร พุ่งแหวกอากาศในเวลากลางคืน เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของชาวบ้านในแถบแนวชายแดนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ของการปะทะ เมื่อมองจากระยะไกล ลูกปืนใหญ่ 155 มิลลิเมตร ดูเหมือนลูกไฟดวงเล็กเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจากฝั่งไทยมุ่งตรงไปยังฐานปฎิบัติการของทหารเขมร มองเห็นได้อย่างชัดเจน หลังจากนั้น เสียงระเบิด ที่เกิดจากการยิง ถึงจะตามมา


...
แรงระเบิดจากปากกระบอก ส่งเสียงตึงสนั่นได้ยินไปไกลเป็น 10 กิโลเมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นกระสุนระเบิดแรงสูง (HE) หรือแม้แต่กระสุนอัจฉริยะที่นำทางตัวเองด้วยเซ็นเซอร์อินฟราเรดเพื่อค้นหาเป้าหมาย เมื่อมองจากระยะไกล ชาวบ้านจะเห็นลูกไฟกลมเล็กๆ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ส่องสว่างท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด ลูกปืน 155 มิลลิเมตร เปลี่ยนค่ำคืนแถวช่องบก ช่องอานม้าและพื้นที่แถวพรมแดนทางฝั่งตะวันออกของไทยให้กลายเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของเทคโนโลยีและประสิทธิภาพทางการทหารของกองทัพไทยทั้งสามเหล่าทัพ นั่นรวมถึงการผสานกำลังของทหารพรานและ กองกำลัง ตชด ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ

ที่เราเห็นเป็นแสงไฟจากกระสุน นั่นเป็นกระสุนต่อระยะแบบ Base Bleed ที่พ่นก๊าซออกมาท้ายกระสุน ลดความปั่นป่วนของกระแสอากาศและแรงต้าน ทำให้ยิงไกลขึ้น

กระสุนระเบิดแรงสูง บางประเภท อาจมีแสงส่องนำวิถี ทำให้เส้นโค้งยาวของมันดูเหมือนเส้นสีส้มหรือสีแดงเรืองแสงพาดผ่านท้องฟ้าก่อนที่จะเกิดการระเบิดขนาดใหญ่และสว่างจ้า
กระสุนนำวิถี: กระสุน "อัจฉริยะ" เช่น SMArt 155 ใช้เซ็นเซอร์และสามารถสร้างรูปแบบเฉพาะตัว เมื่อปล่อยกระสุนย่อย บางครั้งนำวิถีด้วยอินฟราเรด ทำให้เกิดรูปแบบแสงหรือคลื่นกระแทกขณะพุ่งแหวกอากาศด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน

ตัวกระสุนเอง: กระสุนขนาด 155 มิลลิเมตร มีขนาดใหญ่ (ยาวประมาณ 2 ฟุต หนัก 100 ปอนด์) และเดินทางด้วยความเร็วสูงมาก (มากกว่า 1800 ฟุตต่อวินาที) คิดเป็นประมาณ 548.64 เมตรต่อวินาที (m/s) หรือแปลงเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) จะได้ความเร็วประมาณ 1,975 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้ค่าประมาณ 1 ฟุต = 0.3048 เมตร และ 1 เมตร/วินาที = 3.6 km/h. ดังนั้น วิถีโค้งของลูกกระสุนปืนใหญ่ซึ่งตามมาด้วยเสียงระเบิดดังกึกก้องเมื่อกระทบเป้าหมาย จึงเป็นทั้งภาพและเสียงที่ทรงพลังและน่าเกรงขามแม้จะมองสังเกตการณ์จากระยะไกล

...

ระยะยิงของกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตรในแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันอย่างมาก มีระยะตั้งแต่กระสุนระเบิดแรงสูงพื้นฐานที่ยิงได้ไกลประมาณ 24-30 กิโลเมตร ไปจนถึงกระสุนปืนใหญ่แบบนำวิถีระยะไกลขั้นสูง (ER-GAP) เช่น Excalibur ที่ยิงได้ไกล 40-50 กิโลเมตรขึ้นไป และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ให้ผลลัพธ์ 80-110 กิโลเมตร แรงระเบิดของมันนั้นมหาศาล ใช้ระเบิดแรงสูง (HE) หรือกระสุนย่อยสำหรับเป้าหมาย ทำให้เกิดแรงระเบิดและการแตกกระจายของสะเก็ดระเบิด ระยะยิงจึงขึ้นอยู่กับชนิดของกระสุนและระบบปืน สำหรับลูกปืนใหญ่ 155 มิลลิเมตรแบบระเบิดแรงสูงมาตรฐาน (HE) : ทำระยะของการยิงวิถีโค้งประมาณ 24-30 กิโลเมตร จากปืนใหญ่ฮาวิตเซอร์สมัยใหม่ โดยใช้หน่วยฐานระบาย (BB) เพื่อระยะยิงที่ดีขึ้น

...
(HE) เป็นลูกปืนใหญ่ 155 มิลลิเมตร ที่ถูกใช้งานมากที่สุด บรรจุด้วย TNT หรือวัตถุระเบิดที่มีประสิทธิภาพคล้ายกัน ออกแบบมาเพื่อทำลายกำลังพล ยานพาหนะขนาดเล็ก และสิ่งก่อสร้าง ด้วยแรงระเบิดและการแตกกระจายที่รุนแรง
DPICM (Dual-Purpose Improved Conventional Munition): บรรจุระเบิดขนาดเล็กหลายสิบลูกหรือที่เรียกว่า ลูกปราย เพื่อครอบคลุมพื้นที่การทำลายในวงกว้าง ทั้งกลุ่มทหาร/ยานเกราะเบา
แรงกระแทก : เมื่อกระสุนกระทบเป้าหมาย ดินระเบิดจะระเบิดอย่างรุนแรง
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อระยะและผลกระทบ
ระบบปืน: ความยาวลำกล้องปืนใหญ่ การออกแบบ
ปริมาณดินปืน : ปริมาณดินปืนที่แตกต่างกันของลูกปืนใหญ่แต่ละชนิด ให้พลังงานที่แตกต่างกัน
การออกแบบตัวกระสุน : แน่นอนว่าต้องขึ้นตรงกับหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยรูปทรงเพรียวบาง ระบบระบายแรงดันจากฐาน/ระบบช่วยขับเคลื่อนด้วยจรวด ช่วยเพิ่มระยะยิงได้อย่างมาก
ระบบนำทาง : ระบบนำทางด้วย GPS/เลเซอร์ ช่วยให้โจมตีเป้าได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดจำนวนกระสุนเพราะแม่นราวกับผีจับยัดเลยทีเดียว

...
ข้อได้เปรียบทางยุทธวิธี แสงสว่างนำวิถีของลูกกระสุนปืน 155 มิลลิเมตร ช่วยให้ทหารราบซึ่งทำหน้าที่ตรวจการณ์หน้ามองเห็นได้ในขณะที่กระสุนพุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำแม้ในเวลากลางคืน หรือในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ GPS นั่นแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของปืนใหญ่สมัยใหม่ที่กองทัพไทยมีประจำการ การผสมผสานระหว่างความเร็ว ขนาด และพลังงานในการทำลายล้าง สร้างการแสดงแสนยานุภาพทางทหารที่น่าจดจำ.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/