เหตุน้ำท่วมรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,100 ศพแล้ว และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อ 1 ธ.ค. 2568 จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มรุนแรงในหลายพื้นที่ของเอเชีย เพิ่มขึ้นจนเกินกว่า 1,100 ศพแล้ว โดยที่อินโดนีเซียกับศรีลังกา ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุอย่างหนัก กำลังส่งทหารเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้รอดชีวิต

ระบบสภาพอากาศรูปแบบต่างๆ ทำให้เกิดฝนตกหนัก ยาวนานทั่วทั้งเกาะศรีลังกา และพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย, ทางใต้ของประเทศไทย และทางเหนือของมาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ก่อน ประชาชนต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านเพื่อรอความช่วยเหลือด้วยเรือหรือเฮลิคอปเตอร์ และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ถูกตัดขาด

นายปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เดินทางลงพื้นที่ในจังหวัดสุมาตราเหนือเมื่อวันจันทร์ โดยเขากล่าวว่า “หวังว่า ช่วงที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว” และตอนนี้สิ่งสำคัญอันดับแรกของรัฐบาลคือ การหาวิธีส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นให้ได้ทันที โดยให้ความสำคัญกับหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดเป็นพิเศษ

ตอนนี้นายปราโบโวกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก เนื่องจากหลายฝ่ายต้องการให้เขาประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อยกระดับการตอบสนองต่อเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 593 ศพ และยังมีผู้สูญหายเกือบ 470 ราย นอกจากนั้น นายปราโบโวไม่ได้เรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติด้วย

ที่ศรีลังกา รัฐบาลได้เรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติ และใช้เฮลิคอปเตอร์ทหารเพื่อเข้าถึงประชาชนที่ติดค้างอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ หลังเกิดน้ำท่วมและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุไซโคลน “ดิตวาห์”

...

เจ้าหน้าที่ศรีลังการะบุเมื่อวันจันทร์ว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 355 ศพ และยังคงมีผู้สูญหายอีก 366 ราย ระดับน้ำท่วมในกรุงโคลัมโบ เพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดในช่วงข้ามคืนเข้าสู่วันจันทร์ ก่อนจะเริ่มลดลงหลังจากฝนหยุดตก ทำให้ร้านค้าและสำนักงานบางแห่งเริ่มเปิดทำการอีกครั้ง

นางเอ็มมา บริกแฮม ตัวแทนจาก UNICEF เตือนว่า การเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบยังคงมีข้อจำกัด ถนนและสะพานหลายแห่งได้รับความเสียหาย และการสื่อสารก็ถูกจำกัด นอกจากนั้น การขาดแคลนน้ำสะอาด ทำให้ผู้ประสบภัยอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบางมากขึ้นเรื่อย ๆ

นางบริกแฮมกล่าวอีกว่า UNICEF กำลังลำเลียงเม็ดทำน้ำสะอาดไปให้ผู้ประสบภัยในศรีลังกา ในขณะที่เจ้าหน้าที่เตรียมรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น โรคระบาด และเมื่อน้ำท่วมลดลง “เราจะได้เห็นระดับความเสียหายที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร”

ทั้งนี้ หลายพื้นที่ในเอเชียกำลังอยู่ในช่วงฤดูมรสุมประจำปี แต่เหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย ถูกซ้ำเติมจากพายุโซนร้อนที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก จนทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นพิเศษ

สำนักข่าวแชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ของไทยในวันจันทร์ (1 ธ.ค.) ว่า ฝนที่ตกลงมาหลายระลอก ทำให้เกิดน้ำท่วมคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 176 ศพ ในภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนที่มาเลเซีย มีฝนตกหนักและน้ำท่วมกินพื้นที่กว้างในรัฐปะลิส ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cna