กู้ภัยใจบุญพา “เจ้าบุญรอด” หมูสู้ชีวิตที่ถูกช่วยจากเหตุน้ำท่วมหาดใหญ่ นั่งท้ายกระบะมาถึงอุดรฯ แล้ว เตรียมหาสถานที่เลี้ยง


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2568 นายชัยสิทธิ์ เล็งไธสงค์ ยอด อายุ 44 ปี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม จ.อุดรธานี พาทีมกู้ภัยเดินทางกลับจากช่วยอุทกภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา มาจอดพักที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านดงเค็ง หมู่ 4 ต.บ้านจั่น ถนนมิตรภาพ (อุดรธานี-ขอนแก่น) ขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี ซึ่งหลังกระบะรถกู้ภัยมีหมูตัวผู้น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม

โดยหมูตัวนี้ ทางกู้ภัยได้ช่วยเหลือมาจากน้ำท่วมหาดใหญ่ หลังจากน้ำลดพบเจ้าบุญรอดอยู่บนกรงใกล้โรงเรียน แต่ไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนรับไปดูแล บริเวณลำตัว ขา มีบาดแผลจากของมีคมบาด คาดว่าจะเป็นสังกะสีบาดระหว่างว่ายน้ำเอาตัวรอด ด้วยความสงสารจึงนำกลับมาเลี้ยงที่ จ.อุดรธานี ด้วยระยะทาง 1,600 กม. โดยตั้งชื่อให้ว่า “เจ้าบุญรอด” ซึ่งผูกด้วยเชือกติดกับกระบะรถ นอนกินผักและกล้วยอย่างสบายใจ

นายสายชล คุ้มทรัพย์ อายุ 51 ปี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม เล่าว่า ตนทำงานเป็นสัปเหร่อ ที่วัดป่าโนนทอง ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เห็นข่าวน้ำท่วมหาดใหญ่ในทีวีแล้วรู้สึกหดหู่ใจ อยากไปช่วยเหลือ พอพี่ยอดชวนก็ไปเลย เดินทางไป 2 คืนกับ 1 วัน ไปถึงตอนตี 3 เอาเรือหางยาวลงทันที ภารกิจแรกเข้าไปรับคนที่น้ำท่วม ผู้บาดเจ็บกระจกบาด น้ำสูงประมาณ 2 เมตร ช่วยคนได้มาก แต่ปัญหาคือขยะขนาดใหญ่มีทั้งไม้ ที่นอนลอยออกมาพันใบพัดเรือ กล่องหรือเหล็กเข้ากระแทกเรือ

...

“ตอนช่วยมาครั้งแรกนึกว่าเป็นหมูมีเจ้าของ เขามาขอร้องให้ช่วยหมูที่ค้างอยู่บนกรงตาข่าย และไม่ได้กินอาหารมา 4-5 วันแล้ว พอเอาหมูลงมาเขาก็บอกว่าเอาหมูไปเลย เอาไว้ที่นี่ไม่ได้เพราะไม่มีที่เลี้ยง หมูลอยมาจากไหนไม่รู้”

ส่วนนายชัยสิทธิ์ เล็งไธสงค์ หรือยอด อายุ 44 ปี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม จ.อุดรธานี เล่าว่า ทีมงานตั้งชื่อให้หมูว่า “เจ้าบุญรอด” วันนั้นทีมงานเข้าไปรับชาวบ้าน ซึ่งจะนำคนออกไปก่อน แต่ชาวบ้านที่นั่งอยู่บนหลังคาบ้าน ก็บอกพวกเราว่าให้ช่วยเอาหมูออกไปด้วย เพราะนั่งเฝ้าหมูมานาน 5 วันแล้วตั้งแต่ตอนที่หมูลอยน้ำมา ตอนนี้อยู่บนหลังคารอคนมาช่วย พอส่งชาวบ้านเสร็จแล้ว ก็กลับไปช่วยหมู จำได้ว่าวันที่ 26 พ.ย. ไม่ได้คิดว่าจะเอาหมูกลับมา แต่พื้นที่ไปพบหมูเป็นโรงเรียน ไม่น่าจะเลี้ยงหมูได้

“เราจะเอาหมูไปหาที่เลี้ยงที่ปลอดภัยให้หมูอยู่ เราจะไม่ฆ่า โดยจะเอาเจ้าบุญรอดไปหาหลวงพ่อที่วัดก่อน ถ้าหลวงพ่อไม่เลี้ยงเพราะเกรงว่าจะรบกวนพระ ก็จะนำไปเลี้ยงที่บ้านสวนของตน ตลอดทางที่ขับรถกลับ ก็จะมีชาวบ้านสงสาร นำผัก กล้วย และน้ำมาให้เจ้าบุญรอดกิน”