ผลสำรวจชี้พรรคประชาชน เดินเกมพลาดทำ MOA  แต่ฟันธง ภูมิใจไทยผิดสัญญาชัดเจน

ท่ามกลางฝุ่นตลบทางการเมืองหลังความล้มเหลวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากผลสำรวจของไทยรัฐออนไลน์ ที่ตั้งหัวข้อว่า “พรรคประชาชน ‘เสียเหลี่ยม’ หรือ ‘ทำเต็มที่’ เปิดโพลสำรวจความรู้สึกหลังดีล MOA กับพรรคภูมิใจไทยล่ม” โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 7,486 คน เริ่มเผยแพร่การสำรวจตั้งแต่วันที่ 12-17 ธันวาคม 2568 

ยุทธการ MOA เดินเกมพลาด หรือ ทำดีที่สุดแล้ว?

จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นที่สวนทางอย่างชัดเจน 

แม้จะมีผู้ที่เข้าใจและมองว่าพรรคทำดีที่สุดแล้วอยู่ที่ 31.34 เปอร์เซ็นต์ แต่กลุ่มก้อนใหญ่ที่สุดกลับมองว่านี่คือการเดินเกมพลาด ซึ่งสูงถึง 32.86 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่มองว่าเป็นเรื่องสมประโยชน์ทั้งคู่อีก 21.89 เปอร์เซ็นต์ และตัวเลขที่มองว่าพรรคประชาชนถูกหักหลังอยู่ที่ 13.90 เปอร์เซ็นต์

ภูมิใจไทย ผิดสัญญา หรือแค่เกมการเมือง?

เมื่อหันมามองคู่กรณีอย่างพรรคภูมิใจไทย ในหัวข้อ "คุณคิดว่า พรรคภูมิใจไทย ทำผิดเงื่อนไข MOA หรือไม่?" ประชาชนเสียงส่วนใหญ่ 45.57 เปอร์เซ็นต์ ฟันธงว่า ผิดสัญญาชัดเจน

อย่างไรก็ตาม มีผู้มองว่าเป็นเรื่องเกมการเมืองปกติ สูงถึง 35.93 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสะท้อนว่าประชาชนจำนวนมากเริ่มชินชากับเหลี่ยมคูทางการเมือง และอาจมองว่าความผิดพลาดครั้งนี้เกิดจากการที่พรรคประชาชน เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ในเกมนี้เองมากกว่า 

...

ขณะที่อีก 18.49 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้สนใจประเด็นนี้ โดยมุ่งเน้นที่การแก้ปัญหาปากท้องมากกว่า

สัญญาณอันตราย ดีล MOA มีผลต่อการเลือกพรรคประชาชน

ข้อมูลที่น่าตกใจที่สุดและถือเป็นธงแดงของพรรคประชาชน อยู่ที่ผลสำรวจหัวข้อ "จากเหตุการณ์ที่แก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคประชาชน ครั้งต่อไปหรือไม่"

ผลลัพธ์ปรากฏว่า คะแนนเสียงแตกออกเป็นสองฝ่ายในสัดส่วนที่สูสีกันมาก แต่ฝ่ายที่บอกว่า ไม่เลือกแล้ว พลิกกลับมานำสูงสุดที่ 45.97 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเฉือนชนะกลุ่มที่ยังยืนยันจะเลือกเหมือนเดิมที่มีอยู่ 42.88 เปอร์เซ็นต์ ไปอย่างเฉียดฉิว

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเริ่มลังเลอีก 11.15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากพรรคไม่สามารถกู้ศรัทธากลับมาได้ คะแนนส่วนนี้อาจไหลออกไปสมทบกับกลุ่มที่ไม่เลือก จนกลายเป็นวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่ได้เช่นกัน

แม้จะเป็นการทำผลสำรวจในโลกออนไลน์ แต่ในด้านหนึ่งก็มีภาพให้เห็นเช่นกันว่า แผนการ MOA ของพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในเชิงผลลัพธ์ทางนิติบัญญัติ แต่ยังสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาชน ทั้งหมดนี้อาจเป็นโจทย์หินที่แกนนำพรรคต้องเร่งทบทวนยุทธศาสตร์ ก่อนที่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าจะมาถึงในอีกไม่นานหลังจากนี้