รัฐสภา ตีตกคำสงวนแปรญัตติ สส.พนิดา ปมประชุมลับถกแก้รัฐธรรมนูญ ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของ กมธ. พร้อมโหวตให้ใช้ข้อบังคับประชุมรัฐสภา ของหมอเปรมศักดิ์ เป็นเกณฑ์ถ่ายทอดสดแทน
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 11 ธ.ค. 2568 ในการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ในวาระ 2 วันที่ 2 เพื่อพิจารณาในมาตรา 256/25 เรื่องการถ่ายทอดสดในห้องประชุมกรรมาธิการ หลังจากมีการอภิปรายในกรรมาธิการเสียงข้างน้อยและเสียงข้างมากเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมรัฐสภา ได้ลงมติเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่ขอสงวนคำแปรญัตติ เรื่องการถ่ายทอดสดในที่ประชุมกรรมาธิการ และต้องการให้เป็นการประชุมลับ ด้วยมติ 256 ต่อ 232 เสียง งดออกเสียง 13 เสียง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ได้หารือในที่ประชุม ว่ามีคำสงวนความเห็น 2 ทิศทาง จะใช้ข้อความไหนเป็นข้อความหลักเรื่องการถ่ายทอดสดในที่ประชุมกรรมาธิการ
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้กล่าวอภิปรายว่า ให้คงร่างกรรมาธิการเพราะการถ่ายทอดสดที่เขียนมา มีการยกข้อบังคับรัฐสภาในข้อ 9 มาเขียนไว้ซึ่งมีใจความทำนองเดียว แต่มีข้อแตกต่างตรงคำสงวนของนางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่ใช้กรรมาธิการ 2 ใน 3 ในการประชุมลับ แต่ข้อบังคับคือ 1 ใน 4 ซึ่งถ้อยคำมันย้อนแย้งกัน จึงอยากให้มีการปรับแก้
ขณะที่นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมาธิการ ระบุว่า ต้องใช้ข้อบังคับของสภา ไม่ควรกำหนดให้ตายตัว เพื่อให้ยืดหยุ่นได้ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเหมือนน.ส.พนิดา ที่อาจจะนำไปสู่การปฏิบัติที่ยากกว่า
...

ส่วนนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวในที่ประชุมว่า บางเรื่องต้องมีข้อจำกัดในการหารือในที่ประชุมกรรมาธิการ หากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ถ้ามีการถ่ายทอดสดอาจจะทำให้กรรมาธิการไม่กล้าพูดคุยกันในที่ประชุม ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ ขอให้ประธานรัฐสภาใช้อำนาจในการพักการประชุมเพื่อหารือกันในชั้นกรรมาธิการ
จากนั้น เวลา 12.52 น. รัฐสภากลับมาพิจารณาอีกครั้ง ในมาตรา 256/25 เรื่องการถ่ายทอดสดในห้องประชุมกรรมาธิการ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวชี้แจงว่าเรื่องการถ่ายทอดสด จะต้องยึดถือข้อบังคับของการประชุมรัฐสภา หากประชุมลับจะต้องอาศัยเสียง 1 ใน 4 เพื่อให้ไม่ขัดแย้งกับการประชุมรัฐสภา
ส่วนน.ส.พนิดา กล่าวชี้แจงว่า ในชั้นกรรมาธิการไม่ได้ขัดกันแต่อย่างใด ในเนื้อหาระบุไว้ว่าให้นำข้อบังคับรัฐสภามาใช้โดยอนุโลม และหากจะใช้ประชุมลับให้ใช้เสียง 2 ใน 3 ของกรรมาธิการ ซึ่งไม่ได้ขัดกันในข้อปฏิบัติ แต่สิ่งที่เป็นหัวใจ คือมีการนำเสียงสะท้อนของประชาชนมาพูดคุยในชั้นกรรมาธิการ ที่มีการประชุมกันเดือนละ 1 ครั้งหรือไม่ ที่จะเป็นกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมที่เป็นหัวใจของประชาธิปไตย ยืนยันการใช้เกณฑ์ 2 ใน 3 มีความจำเป็น
โดยที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้ลงมติเห็นด้วยกับคำสงวนความเห็นของนพ.เปรมศักดิ์ ที่ต้องการให้ยึดข้อบังคับของการประชุมรัฐสภาในการถ่ายทอดสด ด้วยคะแนน 413 เสียง ต่อ 157 เสียง งดออกเสียง 14 เสียง
