นายกฯ กำชับปภ.-จังหวัด เร่งแก้ไขปรับปรุงระบบจ่ายเงินเยียวยา ให้ถึงมือประชาชนน้ำท่วมภาคใต้ให้เร็วที่สุด ขณะที่ ครม.ไฟเขียวค่าปลงศพ 2 ล้าน เพิ่ม 8 จังหวัดภาคใต้


วันที่ 9 ธ.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว. มหาดไทย ได้มีข้อสั่งการว่า เรื่องการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากนายกฯ ได้รับทราบว่า หลังจากที่ได้มีการปรับลดขั้นตอน ปรับลดเอกสาร และเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนทางออนไลน์ไปแล้ว การจ่ายเงินให้ถึงมือประชาชนก็ควรจะรวดเร็วขึ้น แต่ทราบว่าตอนนี้ ระบบยังมีปัญหาอยู่ ทำให้การจ่ายเงินยังล่าช้า นายกฯ จึงได้มีการกำชับขอให้ทาง ปภ. และจังหวัด เร่งแก้ไขปรับปรุงระบบ และจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด


นายสิริพงศ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเสนอครม.เห็นชอบในหลักการในการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เก้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจากรอบที่ผ่านมา การจ่ายเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในส่วนของการจ่ายค่าปลงศพ ผู้เสียชีวิตใน จ.สงขลา 2 ล้านบาท ในรอบนี้กระทรวงมหาดไทยขอมีมติ ครม. เพิ่มอีก 8 จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, สตูล และ จ.ตรัง โดย 1 ล้านบาทแรก จากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี และอีก 1 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 ซึ่งเป็นงบกลาง รวม 2 ล้านบาท โดยหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเยียวยาเหมือนกับที่ จ.สงขลา โดยการจ่ายเงินเยียวยานั้นทางจังหวัดจะจัดตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณาจ่ายเงินค่าปลงศพ ซึ่งประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

...


ในโอกาสนี้ ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 หรืองบกลาง จำนวน 164 ล้านบาท นั่นหมายความว่า ในส่วนของกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย จะต้องเตรียมเงินไว้ 164 ล้านบาทเช่นกัน


นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ครม. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเพิ่มเติมสำหรับอุทกภัย โดยส่วนนี้สำหรับทั้งประเทศ ซึ่งหลักเกณฑ์ทางนายกฯ ก็ได้ปรับหลักเกณฑ์และอนุมัติไปหลายครั้ง เริ่มต้นจากเมื่อประสบปัญหาอุทกภัยแล้ว อุดหนุนทุกหลังคาเรือน 9,000 บาท หลังจากนั้นก็มีแบบเป็นขั้นบันไดคือน้ำท่วมเกิน 30 วันได้ 5,000 บาท, เกิน 60 วันได้ 10,000 บาท, เกิน 90 วันได้ 15,000 บาท, เกิน 120 วันได้ 20,000 บาทเพิ่มเติม


นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้รายงานผลว่า บัดนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเบิกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน 1,526,274 ครัวเรือน 12,192,474,100 บาท ในขณะเดียวกันบัดนี้ได้ทราบว่ามีสถานการณ์ลุกลามบานปลาย มีหลายพื้นที่ที่จำเป็นต้องจ่ายเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้น ในการนี้กระทรวงมหาดไทยจึงได้มาขอรับการสนับสนุนงบกลางเพิ่มเติมอีก 10,405,769,100 บาท โดยครม.เห็นชอบ


นายสิริพงศ์ กล่าวว่า พร้อมขอปรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอุดหนุนสำหรับผู้ประสบอุทกภัยด้วย จากเดิมที่กำหนดให้ต้องได้รับการรับรองว่าเป็นผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจากผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับรอง และในกรณีที่ผู้ประสบภัยรายใดไม่ได้รับการรับรองให้ทำประชาคมเพื่อเป็นการรับรองทดแทน ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นต้องได้รับการรับรองว่าเป็นผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจากผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับรอง โดยตัดข้อกำหนดเรื่องการทำประชาคมออก เนื่องจากในรอบที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการทำประชาคมในพื้นที่ที่ประกาศเป็นภัยพิบัติแล้ว สร้างความยุ่งยากต่อพี่น้องประชาชน ซึ่ง ครม. เห็นชอบในประเด็นเหล่านี้