ครอบครัวของ ร็อบ ไรเนอร์ ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังรายนี้และภรรยา ขณะที่ นิก ลูกชายขึ้นศาลครั้งแรกแล้ว
เมื่อวันพุธที่ 17 ธ.ค. 2568 เหล่าทายาทของนาย ร็อบ ไรเนอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดระดับตำนานผู้ล่วงลับ ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับนายไรเนอร์กับภรรยา และเรื่องที่นาย นิก ไรเนอร์ ลูกคนกลางของทั้งคู่ถูกจับกุมตัวในข้อหาฆาตกรรมบิดาและมารดาของตัวเอง
ทั้งนี้ ร่างของสามีภรรยาไรเนอร์ถูกพบเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) ภายในบ้านพักของพวกเขาในลอสแอนเจลิส ขณะที่นิก ไรเนอร์ ถูกควบคุมตัวในคืนที่เกิดเหตุ และถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมเมื่อวันอังคาร (16 ธ.ค.)
“ความสูญเสียที่น่าสยดสยองและสะเทือนใจจากการจากไปของ ร็อบ และ มิเชล ไรเนอร์ พ่อแม่ของเรา เป็นสิ่งที่ไม่มีใครควรต้องประสบพบเจอ” เจค กับ โรมี ไรเนอร์ ลูกชายคนโตกับลูกสาวของร็อบ ไรเนอร์ ระบุในแถลงการณ์ “พวกท่านไม่ได้เป็นเพียงแค่พ่อแม่ แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราด้วย”
“พวกเราขอขอบคุณสำหรับคำไว้อาลัย ความเมตตา และกำลังใจที่หลั่งไหลเข้ามา ซึ่งเราได้รับไม่เพียงแค่จากครอบครัวและมิตรสหายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากทุกสาขาอาชีพด้วย”
พวกเขายังขอให้สังคมให้ความเป็นส่วนตัวและความเคารพต่อครอบครัวของพวกเขา พร้อมทั้งขอให้ คาดเดาเรื่องต่างๆ ด้วยความเห็นอกเห็นใจและอยู่บนหลักความเป็นมนุษย์ “และขอให้ทุกคนจดจำพ่อแม่ของเราในฐานะผู้ที่ใช้ชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยมและมอบความรักให้กับผู้อื่นเสมอมา” โดยไม่ได้กล่าวถึงข้อกล่าวหาที่มีต่อนิกผู้เป็นพี่ชายโดยตรง
นิก ไรเนอร์ วัย 32 ปี ได้ปรากฏตัวต่อศาลเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ และได้สละสิทธิ์ในการให้การ (ว่ารับสารภาพหรือปฏิเสธ) ต่อข้อหาฆาตกรรมระดับ 1 จำนวน 2 กระทงที่เขาถูกฟ้องร้อง
...
ในการพิจารณาคดีดังกล่าว อัยการและทีมทนายความฝ่ายจำเลยของนายไรเนอร์เห็นพ้องให้เลื่อนการ ฟ้องให้การ (Arraignment) ออกไปจนถึงวันที่ 7 มกราคม ซึ่งจะเป็นวันที่เขามีโอกาสเข้าให้การต่อศาลอีกครั้ง และจนกว่าจะถึงวันนั้น นิกจะถูกควบคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถาน ทวิน ทาวเวอร์ ในลอสแอนเจลิส
อัยการระบุว่า หากนิกให้การปฏิเสธและถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เขาอาจต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์ขอทัณฑ์บน หรืออาจได้รับโทษประหารชีวิต ซึ่งทางอัยการระบุว่าในขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะมีการเรียกร้องให้นิกมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตหรือไม่
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc